แฉ ‘ธัมมชโย’ สบายดี เดินเหินสั่งการต้านรัฐเอง
อดีตพระลูกวัดรุ่นแรกวัดพระธรรมกาย ยืนยันว่าจนถึงปัจจุบันพระธัมมชโยยังคงเดินสั่งการแก้เกมการหลบเลี่ยงการจับกุมจากเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ตามปกติ
โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์
อดีตพระลูกวัดรุ่นแรกซึ่งรู้เช่นเห็นชาติ พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นอย่างดียืนยันว่าจนถึงปัจจุบันพระธัมมชโยยังคงเดินสั่งการแก้เกมการหลบเลี่ยงการจับกุมจากเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ตามปกติ
นพ.มโน เลาหวณิช อาจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ย้ำว่า ขณะนี้พระธัมมชโยยังเดินได้ปกติ และยังคงเป็นผู้สั่งการต่างๆ จากภายในวัด
“สายข่าวที่ฝังตัวอยู่ในวัดพระธรรมกายหลายรายยืนยันตรงกันว่าพระธัมมชโยยังคงพำนักอยู่ท้ายวัดในอาคาร 60 ปีพระราชภาวนาวิสุทธิ์ บริเวณพื้นที่ 196 ไร่ ไม่ใช่พื้นที่ 2,000 ไร่ อย่างที่เข้าใจกัน และขณะนี้ก็ยังเดินได้ เมื่อวานซืนก็ยังเดินและสั่งงานภายในวัดอยู่เลย” นพ.มโน ระบุ
อย่างไรก็ตาม คุณหมอวิเคราะห์ว่า หากจับกุมตัวพระธัมมชโยได้อาณาจักรธรรมกายก็จะล่มสลาย เพราะทิศทางวัดพระธรรมกายขึ้นอยู่กับผู้นำสูงสุดเพียงคนเดียวที่จะชี้ไปทางไหน
นพ.มโน ยังประเมินปฏิบัติการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เป็นเพียงการปฏิบัติเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น ส่วนการค้นวัดหาตัวพระธัมมชโยจริงๆ คงต้องรอจังหวะ ซึ่งเชื่อว่าดีเอสไอคงเตรียมแผนเอาไว้แล้ว
คาดว่าดีเอสไอจะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งการดำเนินการในวันนี้คงต้องการแสดงให้เห็นว่าวัดพระธรรมกายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร จากนั้นคงมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น ส่วนตำแหน่งที่อยู่ของพระธัมมชโยนั้นทางดีเอสไอทราบดีว่าอยู่ที่ไหน เพียงแต่ในลำดับขั้นการเข้าไปจะต้องเข้าพบกับรองเจ้าอาวาสหรือรักษาการเจ้าอาวาสเสียก่อน
“ปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงเช้าคงไม่ได้อะไร เพราะเจ้าหน้าที่เข้าไปผิดประตู แต่ก็จำเป็นต้องทำเพราะต้องการคุยกับผู้บริหารในวัด แต่บังเอิญคนที่ดีเอสไอคุยด้วยคือพระสนิทวงศ์ (ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร) ซึ่งไม่ใช่ผู้คุมนโยบาย คนที่คุมนโยบายจริงๆ คือพระภาวนาวิริยคุณ หรือพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส
“...ดีเอสไอต้องเอาหมายค้นไปยื่นให้กับพระทัตตชีโวเพื่อขอค้น แล้วให้ท่านเป็นผู้นำค้นด้วยในฐานะที่ท่านเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาส แล้วก็เป็นผู้ปฏิบัติงานของราชการ ซึ่งท่านจำเป็นต้องให้ความร่วมมือ ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายฐานความผิดมาตรา 157 และ 189 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา”
อย่างไรก็ตาม หากต้องการจะจับกุมตัวพระธัมมชโยจริง คุณหมอมโน เสนอว่า เจ้าหน้าที่ต้องเข้าควบคุมสถานีโทรทัศน์ดีเอ็มซีเป็นการเร่งด่วน เพราะเป็นช่องทางหลักในการระดมศิษยานุศิษย์เข้ามายังวัดพระธรรมกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นสื่อที่โฆษณาชวนเชื่อให้กระด้างกระเดื่องกับอำนาจรัฐ
นอกจากนี้ ลำดับถัดมาจำเป็นต้องตัดน้ำตัดไฟภายในวัด และควบคุมเครื่องกระจายเสียงเพื่อบอกให้ชาวบ้านกลับวัด พร้อมทั้งปิดสถานีวิทยุชุมชนด้วย หากไม่ทำเช่นนี้สถานการณ์จะยืดเยื้อ เพราะเขาซุกมวลชนเอาไว้จำนวนมาก จะเกิดความยุ่งยากในการจับกุม
“วัดพระธรรมกายถือเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประเทศไทย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดีเอสไอจะจัดการ แม้กระทั่งกำลังตำรวจที่ส่งเข้าไปช่วยก็ยังไม่พอ ต้องมีกำลังทหารเข้าไปเสริมด้วย”
นพ.มโน รวบยอดสถานการณ์ว่า ขณะนี้วัดพระธรรมกายกำลังปลุกระดมโจมตีว่ารัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตย กลั่นแกล้งทำลายพุทธศาสนา ซึ่งได้เข้าไปสู่เรื่องของความมั่นคงของชาติและเป็นการชุมนุมทางการเมืองไปแล้ว ฉะนั้นรัฐจึงต้องจัดการ
“เชื่อว่าพระธัมมชโยมีโอกาสถูกจับ 70% แต่ถ้ายิ่งช้านานก็มีโอกาสอีก 30% ที่จะหลบหนีออกไปตั้งสาขาในต่างประเทศ เช่นเดียวกับภาวนาพุทโธ” นพ.มโน เชื่อเช่นนั้น


