posttoday

แอดเวนเจอร์ฮอต พิสูจน์รักวาเลนไทน์2016

14 กุมภาพันธ์ 2559

ปีนี้อีกกระแสที่มาแรง คือการพิสูจน์คู่รักด้วยกิจกรรมแอดเวนเจอร์หรือผจญภัย

โดย...ทีมข่าวธุรกิจตลาดโพสต์ทูเดย์

เทศกาลวาเลนไทน์ 14 ก.พ.ในยุคดิจิทัลปี 2016 นอกจากธุรกิจที่เกาะกระแสวันแห่งความรักจะต่อยอดออกไปให้มีสีสันมากขึ้น ตั้งแต่ธุรกิจดอกกุหลาบ ช็อกโกแลต ร้านอาหาร สถานบันเทิง ศูนย์การค้า ธุรกิจจัดหาคู่ การหาคู่ออนไลน์ หาคู่ผ่านโซเชียลต่างๆ

หากมองถึงธุรกิจในเทศกาลวาเลนไทน์ที่ต่างประเทศ ที่ผ่านมาฮือฮาจากธุรกิจให้เช่าคู่รัก มาปีนี้อีกกระแสที่มาแรง คือการพิสูจน์คู่รักด้วยกิจกรรมแอดเวนเจอร์หรือผจญภัย หากทั้งคู่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกันไปได้ ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นซึ่งจะครองชีวิตคู่ร่วมกัน เหมือนครั้งหนึ่งที่คู่รักชาวไทย จะพาคู่รักไปปีนภูกระดึง เพื่อพิสูจน์น้ำอดน้ำทนที่จะอยู่ร่วมกัน

เห็นได้จาก “โอลา” แอพพลิเคชั่นที่จะทำให้ชีวิตคู่วันวาเลนไทน์เปลี่ยนจากความโรแมนติกเป็นการผจญภัยเพื่อพิสูจน์รัก ซึ่งให้บริการแล้วในกรุงนิวเดลี เมืองมุมไบ เมืองเชนไน เมืองบังกาลอร์ เมืองไฮเดอ ราบัด และเมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย ด้วยกิจกรรมผจญภัยที่หลากหลายและท้าทายคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดร่ม โต้คลื่น โรยตัว ดำน้ำ ขี่ม้า พารามอเตอร์ และพายเรือคายัก ซึ่งการใช้บริการก็เพียงแค่กดจองเหมือนเรียกรถแท็กซี่เท่านั้น สักครู่รถบริการของโอลาจะไปรับและพาไปส่งยังที่หมาย

กิรัน บราฮ์มา หัวหน้าฝ่ายธุรกิจของโอลา ระบุว่า เมื่อพูดถึงวันวาเลนไทน์ สิ่งแรกที่มักจะนึกถึงคงหนีไม่พ้นช็อกโกแลต ดอกไม้ และการทานอาหารค่ำแบบโรแมนติก สิ่งที่โอลาต้องการคือ การจัดสรรกิจกรรมใหม่ๆ ที่ลูกค้านึกไม่ถึง และสร้างประสบการณ์ท้าทายและน่าจดจำใหม่ๆ สำหรับคู่รัก ซึ่งโอลามั่นใจว่า ลูกค้าทุกคู่ที่ใช้บริการจะระลึกถึงความทรงจำนี้ทุกๆ วาเลนไทน์

นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่นหลีกเลี่ยงคนรักเก่า ซึ่งให้บริการตลอดแต่กลับพบว่ายอดใช้บริการสูงมากในวันวาเลนไทน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอไม่ให้กระทบแผลรักที่ใกล้หาย โดยโคลคจะแจ้งเตือนตำแหน่งแฟนเก่าด้วยการจับสัญญาณจากการใช้สังคมออนไลน์

หันมามองในเมืองไทย จากผลสำรวจของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ปี 2559 จาก 1,207 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-7 ก.พ. 2559 พบว่ากลุ่มที่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์เป็นวัยรุ่นถึง 64.5% วัยทำงาน 22.3% คู่สมรส 13% และอื่น 0.2%

ขณะที่ความคิดเห็นเกี่ยวกับบรรยากาศในวันวาเลนไทน์ในปี 2559 เทียบปี 2558 เห็นว่ามีความคึกคักมากกว่า 42.9% น้อยกว่า 33.8% และไม่เปลี่ยนแปลง 23.3% โดยกลุ่มที่คาดว่าจะมีความคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นเพราะหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น และเมื่อถามถึงการฉลองและแสดงความรักกับใครนั้น ส่วนใหญ่จะตอบว่าคนรักทั้งสองหัวข้อ รวมทั้งคาดหวังว่าจะได้ดอกไม้ในวันวาเลนไทน์มากถึง 66.2%

เมื่อมองถึงกำลังซื้อพบว่า จะเลือกซื้อของขวัญมากสุด 66.5% ประมาณค่าใช้จ่าย 1,991 บาท เพิ่มขึ้น 61.1% รองลงมา ซื้อดอกไม้ 46.4% มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 491 บาท เพิ่มขึ้น 33.8% ไปทานข้าวนอกบ้าน 39.5% มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 2,586 บาท เพิ่มขึ้น 61.7% ที่เหลือเป็นการใช้จ่ายเพื่อเดินห้าง ดูภาพยนตร์ ซื้อช็อกโกแลต และซื้อการ์ด ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่หรือ 55.5% จะใช้เงินเดือนในการจับจ่ายเทศกาลนี้

ที่น่าสนใจคือ คนส่วนใหญ่ 80.9% ยังมีทัศนคติต่อวันวาเลนไทน์ว่า เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และ 70.3% มองว่าวันวาเลนไทน์ก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มขึ้น

ในมุมมองของธุรกิจนั้น เจ้าพ่อวงการอีเวนต์ เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ให้ความเห็นว่า การจัดงานอีเวนต์ในช่วงวันวาเลนไทน์ส่วนใหญ่จะเป็นงานอีเวนต์ขนาดเล็กที่จัดขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการขายของห้างค้าปลีก โรงแรม ร้านอาหาร หรือ สถานที่สำคัญเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งภาพรวมการจัดงานวันวาเลนไทน์ปีนี้มีความคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา

สิ่งที่ธุรกิจอีเวนต์ต้องปรับตัวสำหรับวันวาเลนไทน์ คือ อาจจัดงานคอนเสิร์ตสำหรับคู่รักขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ส่วนงานอีเวนต์ในรูปแบบอื่นๆ ยังไม่มีแนวคิดในขณะนี้ เนื่องจากวันสำคัญดังกล่าวผู้บริโภคที่เป็นคู่รักส่วนใหญ่อยากอยู่ด้วยกัน 2 คน เช่น รับประทานอาหาร ดูคอนเสิร์ต หรือดูหนัง เป็นต้น

ห้างค้าปลีกถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความคึกคักในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ เพราะนอกจากจะมีการตกแต่งสถานที่ให้มีความสวยงามในธีมของความรักแล้ว ยังมีการนำสินค้าที่เกี่ยวกับความรักออกมาจำหน่ายกันอย่างคึกคักโดยเฉพาะช็อกโกแลตและดอกกุหลาบ

แหล่งข่าวจากบริษัท สยามพิวรรธน์ ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์และสยามพารากอน กล่าวว่า ขณะนี้นักช็อปเข้ามาใช้บริการกันอย่างคึกคักทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการมากที่สุด คือ นักท่องเที่ยวจากจีน เพราะวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดตั้งแต่เทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มลูกค้าคนไทยก็เริ่มมีความคึกคักมากขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา และในวันที่ 14 ก.พ.นี้คาดว่าจะมีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของร้านอาหาร

เอนก บุญธรรม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอฟ แอนด์ บี อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในเครือบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า แนวโน้มการจัดงานแต่งงานของคู่รักเปลี่ยนไปจากในอดีตที่ต้องเน้นจัดในโรงแรมหรูๆ ก็เริ่มหันมาจัดที่บ้าน หรือจัดนอกสถานที่มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป

นอกจากนี้ จากเดิมเคยจัดงานแบบโต๊ะจีน ก็เริ่มจัดแบบค็อกเทลมากขึ้น ส่วนขนาดการจัดงานก็เล็กลง โดยระดับที่มาแรงที่สุดคือ 200-300 คน แต่แม้ขนาดงานจะเล็กลงกลับพบว่า คู่รักนิยมเพิ่มการจัดงานสังสรรค์หลังพิธีการแต่งงาน (อาฟเตอร์ ปาร์ตี้) มากขึ้น ขณะที่การแข่งขันด้านราคาจัดเลี้ยงงานแต่งงานสูงมาก ปีที่ผ่านมามีคู่แข่งบางรายตัดราคา 20-30% ซึ่งทำให้การเติบโตของรายได้รับจัดงานแต่งงานไม่มาก โดยปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จากการจัดงานแต่งงานจะโต 10% จากจำนวนงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่แพ็กเกจงานแต่งงานคงราคาไม่เติบโตจากปีก่อน

อีกธุรกิจที่เผชิญกับภาวะซบเซาคือ บริการจัดดอกไม้ โดย เรวัต จินดาพล ผู้ก่อตั้งบริษัท มิสลิลลี่ฟลาวเวอร์ กล่าวว่า ปีนี้เทศกาลวาเลนไทน์ธุรกิจบริการจัดดอกไม้ค่อนข้างซบเซา คาดว่าตลาดจะหดลบ 50% จากปีที่ผ่านมาติดลบ 20-30% เนื่องจากดอกไม้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ในยามภาวะเศรษฐกิจตกต่ำลูกค้าจะตัดงบซื้อดอกไม้ทันที แม้ว่าเป็นเทศกาลที่หนึ่งปีมีครั้งเดียวก็ตาม

ชลิต ลิมปนะเวช อุปนายกฝ่ายวิชาการสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เทศกาลวาเลนไทน์ในปีนี้ ธุรกิจบริการจัดดอกไม้ค่อนข้างซบเซา เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายตลาดนี้เป็นวัยเริ่มทำงานหรือกลุ่มวัยรุ่นที่ชะลอการซื้อดอกไม้เพื่อแสดงความรัก เพราะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ประกอบกับวาเลนไทน์ตรงกับวันอาทิตย์ จึงนิยมไปดินเนอร์หรือชมภาพยนตร์แทน

เมื่อเห็นถึงภาพรวมตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจจึงควรปรับเปลี่ยนตามเพื่อเป็นที่ต้องตาต้องใจของลูกค้าและยินดีควักกระเป๋าซื้อในที่สุด

แอดเวนเจอร์ฮอต พิสูจน์รักวาเลนไทน์2016

ธุรกิจปรับรับกำลังซื้อ

เทศกาลวาเลนไทน์ที่ถือเป็นโอกาสในการกระตุ้นยอดขายช่วงสั้นของธุรกิจหลากหลายที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก ในปีนี้ที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว จนกระทั่งเกิดคำพูดเปรียบเปรยว่า ปีที่แล้วเผาหลอก ปีนี้เผาจริง เห็นได้จากการประหยัดมากขึ้นของผู้บริโภค ซื้อสินค้าอย่างไตร่ตรองมากขึ้น และเลือกจับจ่ายสินค้าจำเป็น ล้วนส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการจับจ่ายของลูกค้า

ทั้งนี้ เห็นได้ชัดเจนจาก เรวัต จินดาพล ผู้ก่อตั้งบริษัท มิสลิลลี่ ฟลาวเวอร์ ผู้ดำเนินธุรกิจบริการจัดดอกไม้มิสลิลลี่ เปิดเผยว่า เนื่องจากดอกไม้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ในยามภาวะเศรษฐกิจตกต่ำลูกค้าจะตัดงบซื้อดอกไม้มอบให้คนรักทันที แม้ว่าเป็นเทศกาลที่หนึ่งปีมีครั้งเดียวก็ตาม

ขณะที่ผู้นำเข้าดอกไม้ย่านปากคลองตลาด ก็ได้ปรับตัวด้วยการนำเข้าดอกกุหลาบจากประเทศจีนแทนการนำเข้าจากฮอลแลนด์ เพราะดอกกุหลาบจากจีน ราคาในช่วงวาเลนไทน์ 20-25 บาท/ดอก ถูกกว่าดอกไม้จากฮอลแลนด์จำหน่าย 60-70 บาท/ดอก ทั้งนี้เพื่อรองรับกับกำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลงและหันมามอบดอกไม้ในราคาถูกลง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งมีกำลังซื้อน้อยเมื่อเทียบกับวัยทำงาน

“กระแสธุรกิจจัดดอกไม้ที่ซบเซา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าย่านปากคลองตลาด ลดการสั่งดอกกุหลาบเข้ามา อีกทั้งพ่อค้าคนกลางยังฉกฉวยโอกาสปรับราคา จากดอกกุหลาบจีนก่อนหน้าเทศกาลวาเลนไทน์ราคาต่ำกว่า 20 บาท/ดอก เพิ่มเป็น 28 บาท/ดอก ส่วนดอกกุหลาบฮอลแลนด์จากดอก 40 บาท/ดอก เพิ่มเป็น 80 บาท/ดอก” ผู้จำหน่ายดอกไม้ย่านปากคลองตลาดกล่าว

ในส่วนของธุรกิจร้านอาหาร พิริยาพรรณ ไทยสุริโย รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล ผู้ประกอบกิจการร้านอาหารภายใต้แบรนด์โดมิโน พิซซ่า, เดอะคอฟฟี่ บีน แอนด์ ที ลีฟ, เคียวโชน และมิสเตอร์โจนส์ ออร์ฟาเนจ กล่าวว่า ยังคาดหวังว่าภาพรวมเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้จะคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยธุรกิจที่เห็นได้ชัดเจนคือ ร้านอาหารที่แต่ละร้านจะจัดโปรโมชั่นเยอะมาก เพราะต่างก็มองว่าเป็นโอกาสในการทำรายได้ โดยโปรโมชั่นที่เห็นจะมีทั้งอาหารเมนูพิเศษ หรือรายการส่งเสริมการขาย ลดราคา หรือทานครบแล้วได้อะไร เป็นต้น

ขณะที่ธุรกิจในเครือเอฟโวลูชั่นฯ ก็ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษและเมนูใหม่ๆ เพื่อร่วมฉลองวันแห่งความสุขให้กับลูกค้า เช่น ร้านเดอะ คอฟฟี่ บีน แอนด์ ที ลีฟ ร้านกาแฟพรีเมียมได้ออกเมนูเครื่องดื่มปั่นสูตรเฉพาะที่ให้ทั้งความหอมหวานของสตรอเบอร์รี่ ขณะที่ร้านเคียวโชน ไก่ทอดสัญชาติเกาหลี จัดสองรายการส่งเสริมการขาย รายการแรก “แชร์รักแท้ที่เคียวโชน” เพียงทานอาหาร 550 บาทขึ้นไป แลกซื้อสวีท โปเตโต้ เพียง 59 บาท จากราคาปกติ 119 บาท ฯลฯ

สำหรับอีกธุรกิจที่มองโอกาสจากเทศกาลแห่งความรักคือธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะลูกค้าที่เข้ามาจองเพื่อแต่งงาน โดย สรัญ ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุขุมวิท 15 เพลส ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมเอส 31 ซึ่งเป็นโรงแรมย่านสุขุมวิทระดับ 5 ดาว ที่ให้น้ำหนักกับตลาดจัดงานแต่งงานมาก ระบุว่า คู่รักยุคนี้จะให้ความสำคัญเรื่องการใช้จ่ายกับงานแต่งงานอย่างคุ้มค่ามากขึ้น พยายามควบคุมค่าใช้จ่ายให้เบ็ดเสร็จอยู่ในก้อนเดียวไม่บานปลาย ซึ่งโรงแรมก็ตอบสนองโดยจัดทำแพ็กเกจรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง และมีให้เลือกตั้งแต่ประหยัดที่สุดด้วยงบจัดงาน 900 บาทต่อแขก 1 คน ไปจนถึงสูงๆ 1,300 บาทขึ้นไปต่อคน