"ป้อนเหล้าให้ลูก"...เสี่ยงตาย ทำลายอนาคต

เรื่อง...อินทรชัย พาณิชกุล

คลิปวีดีโอที่ผู้ใหญ่กรอกขวดเบียร์เทใส่ปากเด็กชายวัยไม่ถึง 3 ขวบ แถมยื่นแก้วเหล้าให้ดื่มเป็นการตบท้าย ท่ามกลางเสียงเฮลั่นสนั่นหวั่นไหว สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

จะด้วยความคึกคะนอง หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายของเด็กถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งยังอาจทำลายอนาคตของเด็กอย่างคาดไม่ถึง

ผลการศึกษาของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า อันตรายของเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มีต่อเด็ก แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้

อันตรายระยะสั้น ด้วยรูปร่างของเด็กที่เล็กกว่าผู้ใหญ่ หากดื่มมากเกินไปจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เป็นเหตุให้สมองหยุดทำงาน การควบคุมสัญญาณชีพต่างๆไม่คงที่ เช่น อุณหภูมิ ชีพจร การหายใจ และความดันโลหิต กรณีเลวร้ายที่สุดคือ ไม่รู้สึกตัว หยุดหายใจและเสียชีวิตในที่สุด

อันตรายระยะยาว เด็กที่ดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆเป็นประจำในปริมาณมากจะเพิ่มโอกาสการเสียหายของตับ พัฒนาการของสมองถดถอย เช่น พฤติกรรม อารมณ์ ความมีเหตุมีผล ความจำ และการตัดสินใจ ขณะเดียวกันเด็กที่ดื่มตั้งแต่อายุยังน้อยมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นนักดื่มหัวราน้ำเมื่อเป็นผู้ใหญ่ นำไปสู่อาการติดเหล้า โรคมะเร็ง เส้นโลหิตแตก โรคหัวใจ และเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในอนาคต

นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว กล่าวว่า พฤติกรรมการป้อนเหล้าให้ลูกกินถือเป็นการกระทำของผู้ปกครองที่ไร้จิตสำนึกของความเป็นพ่อแม่

"หัวใจของความเป็นพ่อแม่ แม้กระทั่งสัตว์ทุกชนิดคือ รักและปกป้องลูกของตนเอง เพื่อให้อยู่รอดปลอดภัย แต่มนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ประเสริฐมีภารกิจที่เหนือไปจากการปกป้องคุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัย นั่นคือ การส่งเสริมให้ลูกเจริญเติบโต มีพัฒนาการทางด้านสมอง และมีจิตสำนึกที่ดี พ่อแม่ต้องทำหน้าที่เป็นเบ้าหลอมที่ดีให้ลูก ไม่ใช่ทำร้ายลูก พฤติกรรมป้อนเหล้าให้ลูกกิน ไม่ใช่วิธีที่แสดงออกว่ารักลูก แต่เป็นการทำร้ายลูก ผมไม่เชื่อว่าจะมีพ่อแม่คนไหนที่ไม่รู้ว่าเหล้าเบียร์เป็นยาเสพติด เป็นสิ่งไม่ดี ยกเว้นพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์ต่างดาวมาจากนอกโลก ดังนั้นเมื่อรู้ทั้งรู้ว่าของเหล่านี้ไม่ดี แล้วจะหยิบยื่นให้ลูกทำไม ความคึกคะนองของพ่อแม่บางคน ที่ทำไปก็เพราะไปดื่มของมึนเมา สมองส่วนคิดจึงไม่เหลือ จิตวิญญาณความเป็นพ่อแม่ที่จะปกป้องคุ้มครองลูกน้อยให้ปลอดภัยก็ไม่เหลือด้วย" 

ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) บอกว่า การที่สมาชิกในครอบครัวดื่มเหล้า แนวโน้มที่เด็กจะโตขึ้นมาเป็นนักดื่มที่มีปัญหามีมากกว่าปกติถึง 4 เท่า ยิ่งพ่อแม่ผู้ปกครองยุยงให้ลองดื่ม ยิ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้ลูกกลายเป็นนักดื่มเร็วยิ่งยิ่งขึ้นไปอีก

"ที่ผ่านมา ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความพยายามที่จะดึงนักดื่มหน้าใหม่ โดยเฉพาะเด็กๆ เช่น เติมเหล้าลงในช็อคโกแลตหรือไอศครีม รวมทั้งเหล้าปั่น ปกติแล้วรสชาติของเหล้านั้นไม่อร่อย กินแล้วแทบจะบ้วนทิ้ง แต่ถ้านำไปผสมกับน้ำหวานน้ำผลไม้ก็จะทำให้กินง่ายขึ้น นี่จึงเป็นวิธีที่ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์นิยมใช้กัน และถ้าพ่อแม่ยุยงเสียเอง ก็ยิ่งไปสนับสนุนธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มเข้าไปอีก"

นักวิชาการด้านรณรงค์งดเหล้า ยืนยันว่า พฤติกรรมป้อนเหล้าให้ลูกกินของพ่อแม่ ไม่ต่างจากการปูพรม หรือโรยกลีบกุหลาบให้ลูกเดินเข้าสู่เส้นทางของนักดื่มหน้าใหม่ในอนาคต ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของเด็กในระยะยาว