posttoday

นาทีระเบิดราชประสงค์ จากปากพยานในเหตุการณ์

18 สิงหาคม 2558

เสียงจากพยานที่ถ่ายทอดนาทีระทึกของเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์

โดย....ธเนศน์ นุ่นมัน

กลุ่มควัน ฝุ่นเถ้าจากเหตุระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์จางลงพร้อมกับสถานการณ์ที่เริ่มคลี่คลายไปด้วยตามลำดับ แต่ดูเหมือนความทรงจำของประจักษ์พยานหลายรายต่อช่วงที่เกิดเหตุยังคงเป็นภาพแจ่มชัด จนสามารถถ่ายทอดออกมาให้โพสต์ทูเดย์ฟังว่า

หลังจากส่งผู้โดยสารไปยังบริเวณสามย่านเสร็จ ยงยุทธ สุธิประภา ซึ่งประกอบอาชีพขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างอยู่ในบริเวณ สี่แยกราชประสงค์ ช่วงด้านข้างเซ็นทรัลเวิลด์ ตรงข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ตรงมายังวินจุดที่อยู่ประจำเช่นทุกวัน แต่ช่วงพลบค่ำของวันนี้ จุดที่อยู่ห่างเขาไปไม่กี่ร้อยเมตร มีปรากฏการณ์ ที่ต่างไปจากทุกวัน เกิดขึ้น

"ผมได้ยินเสียงบึ๊ม แต่ก็ไม่ได้ดังมาก เพราะตอนนั้นใส่หมวกกันน็อค นึกว่าหม้อแปลงไฟฟ้าหรือว่ารถแก๊สระเบิด สักพักมองไปตรงแยกก็เห็นมีไฟลุกท่วม อยู่กลางถนน แล้วก็มีคนตะโกนว่า ระเบิด สักพักก็เริ่มเห็นมีคนวิ่งหนี ไปตามสกายวอล์ค บางส่วนก็เข้าไปในห้าง มีรายหนึ่งแต่งกายเหมือนนักท่องเที่ยว เดินมาแบบเหมือนยังมึนๆ อยู่ แล้วก็เริ่มมีเลือดไหล แล้วก็มีคนบอกให้นั่งลงก่อน รอกันอยู่พักใหญ่เจ้าหน้าที่และความช่วยเหลือถึงจะเริ่มมาถึง แต่คนส่วนใหญ่ก็พากันถอยให้ไกลจากจุดที่เกิดเหตุให้มากที่สุด เพราะมีคนตะโกนว่า ระเบิด มีคนตายๆ ก็เลยกลัวกัน" ยงยุทธเล่าถึงสิ่งที่ประสบมาอย่างตื่นเต้น

ขณะที่ในจุดที่ใกล้กัน สุดใจ โรจนทวีกุล ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างอีกราย เล่าเช่นกันว่า หลังจากได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากจุดเกิดเหตุก็รีบขับจักรยานยนต์ไปดู ทันที แต่เมื่อเห็นมีผู้เสียชีวิตและแน่ใจแล้วว่าเป็นเหตุระเบิดก็รีบถอยออกมา

"ผมขับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคิดว่าจะไปช่วยคนเจ็บ แต่พอเห็นเป็นระเบิดมีคนตาย ก็ต้องถอย เพราะนึกออกว่า รายงานข่าวระเบิดในพื้นภาคใต้ บอกว่าเวลามีเหตุระเบิด มักจะมีลูกที่สองตามมาก็เลยกลัว" สุดใจระบุ

นอกจากผู้ร่วมเหตุการณ์ ในจุดนี้แล้ว อีกด้านหนึ่งด้านฝั่งห้างสรรพสินค้าอัมรินทร์พลาซ่า ก็รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน

นาทีระเบิดราชประสงค์ จากปากพยานในเหตุการณ์

ศักดิ์ พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างเล่าว่า ตัวเขาได้ยินเสียงระเบิดระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณชั้น 7 ของตึกอัมรินทร์พลาซ่า

"ผมไม่ค่อยตกใจเพราะทำงานที่นี่มานานผ่านเหตุการณ์การชุมนุมในอดีต มาหลายครั้ง แต่เสียงที่ได้ยินนั้นทำให้รู้เลยว่า ระเบิดครั้งนี้ไม่ธรรมดา เสียงมันดังหนักแน่นกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยินมา อาคารสั่นเลยครับ จึงคิดว่า ครั้งนี้คงไม่ธรรมดาแน่ พนักงานแต่ละคนจึงพากันขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างล่างแล้วก็เห็นมีรถพยาบาลวิ่งมา" ศักดิ์เล่าถึงเหตุระเบิดจากมุมของเขา

จากจุดที่ใกล้เคียงกันนี้เอง สมนึก นามนตรี พ่อครัวของร้านอาหาร ลีคาเฟ่ เล่าว่า ได้ยินเสียงระเบิดระหว่างที่ทำงานอยู่ในครัว เสียงที่ได้ยินนั้นดังมาก ดังจนผิดสังเกต จนทำให้ทุกคนที่อยู่ในครัวมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ก่อนจะหยุดทำงานและออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

"จำได้เลยว่า ดูนาฬิกา ตอนระเบิด เวลา 18 . 56 น. แล้วก็กรูกันออกมาดู จุดที่ออกมาดูกัน ห่างจากศาลพระพรหม ไม่ไกล เห็นชัดเลยว่ามีคนตายอยู่ข้างหน้าก็เลยไม่มีใครกล้าเข้าไปดู สักพักพอเจ้าหน้าที่มาถึงก็มีการกั้นพื้นที่ไม่ให้เข้าไป ก็เลยยืนมองกันอีกสักพัก ก็แยกย้ายกันกลับไปทำงาน" สมนึกระบุถึงช่วงเวลานั้น

นาทีระเบิดราชประสงค์ จากปากพยานในเหตุการณ์

ด้าน ปิ่นแก้ว พิพัฒน์ธาดา แม่ค้าขายดอกไม้ซึ่งขายดอกไม้อยู่บริเวณศาลพระพรหม เล่าว่า แม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ใกล้ตัวจนน่าขนลุก แน่นอนว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นเลวร้ายและไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับผู้เคราะห์ร้ายรายใดเลย แต่สำหรับกลุ่มแม่ค้าแผงลอยบริเวณนี้นับเป็นวันที่ยังไม่ถึงคราวเคราะห์

"ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุอะไรหรอก แต่พวกเรานี่ก็เรียกได้ว่าคุณพระช่วยจริงๆ เพราะปกติจะขายอยู่ตรงนั้น ตรงต้นไม้ต้นแรก ซึ่งก็ต้องโดนแน่ๆ ทั้งแถบแถวนี้ เต็มไปด้วยแม่ค้าดอกไม้ แผงล็อตเตอร์รี แม่ค้าขายน้ำ ขายผลไม้เต็มพื้นที่เลย แต่เราหยุดขายกันทุกวันจันทร์ ถ้าขายปกติคนจะยิ่งเยอะกว่าวันที่เกิดเหตุมาก และเชื่อว่าจะมีคนเจ็บคนตายมากกว่านี้แน่นอน" ปิ่นแก้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

เหตุระเบิดในกลางกรุงเทพครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่ง ผ่านพ้นไปแล้วโดยที่ผู้ประสบเหตุและอยู่ในเหตุการณ์เล่าตรงกัน ว่า เหตุที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นฝันร้ายครั้งสำคัญที่จะอยู่กับพวกเขาไปอีกนาน แต่ก็เชื่อว่า เวลาจะช่วยเยียวยาสิ่งที่เกิดขึ้นในที่สุด

นาทีระเบิดราชประสงค์ จากปากพยานในเหตุการณ์