posttoday

4 คำถาม ‘บิ๊กตู่’ ชิงกระแสล้มเลือกตั้ง

30 พฤษภาคม 2560

ตลอดเวลากว่า 3 ปีของการบริหารราชการแผ่นดินของคสช.มีการพยายามแสดงออกถึงการเลื่อนเลือกตั้งให้เห็นอย่างน้อย 3 ครั้ง

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ตลอดเวลากว่า 3 ปีของการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการพยายามแสดงออกถึงการเลื่อนเลือกตั้งให้เห็นอย่างน้อย 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ในระหว่างการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยขณะนี้มีสมาชิก สปช.จำนวน 20 คน เสนอเรื่องให้ สปช.ลงมติเห็นชอบเพื่อกำหนดเป็นประเด็นคำถามประชามติเพิ่มเติมในทำนองว่า “ภายหลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญควรดำเนินการปฏิรูปประเทศ 2 ปีก่อนการเลือกตั้ง”

ทว่าขณะนั้นที่ประชุม สปช.มีมติไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับบวรศักดิ์ อุวรรณโณ และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ สปช.ไม่อาจพิจารณาและลงมติประเด็นคำถามที่สมาชิก สปช.จำนวน 20 คนเสนอ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 กำหนดให้ สปช.ต้องพ้นจากตำแหน่งทันทีที่ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบ

อย่างไรก็ตาม ผลของการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญครั้งนั้นทำให้การเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไปโดยปริยายเช่นกัน เพราะต้องเริ่มจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก่อนจะกลายมาเป็นรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560

ครั้งที่ 2 เพิ่งเป็นการแสดงออกภายหลังเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ในจังหวะเดียวกับการครบรอบ 3 ปีในการรัฐประหารของคสช. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ออกมาระบุในทำนองว่าถ้าประเทศยังไม่สงบแล้วจะมีการเลือกตั้งได้อย่าง

“สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกคนคำนึงถึง คือถ้าบ้านเมืองยังเป็นอยู่แบบนี้ ทั้งการวางระเบิด การใช้อาวุธสงคราม การทำให้เกิดความขัดแย้งในภาคประชาชน แล้วมีปัญหาเหมือนเดิมที่ผ่านมา แล้วจะเลือกตั้งกันได้หรือไม่ ผมกำหนดไปก็เท่านั้น อยู่ที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อเดินไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกัน อย่าให้รัฐบาลเป็นผู้กำหนดทั้งหมด” คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.

ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นกลางรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยไม่ได้เป็นการแสดงออกถึงการเลือกตั้งโดยตรง แต่เป็นการตั้งคำถามว่าประชาชนพร้อมจะให้มีการเลือกตั้งหรือไม่

คำถามที่ออกมาจาก พล.อ. ประยุทธ์ มีด้วย 4 ข้อ ประกอบด้วย

“1.ท่านคิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่

2.หากไม่ได้ จะทำอย่างไร

3.การเลือกตั้งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งอย่างเดียวที่ไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศ และเรื่องอื่นๆ เช่น ประเทศชาติจะมียุทธศาสตร์และการปฏิรูปหรือไม่นั้น ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง

4.ท่านคิดว่ากลุ่มนักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในทุกกรณี ควรจะมีโอกาสเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีกหรือไม่ หากเข้ามาได้อีก เกิดปัญหาซ้ำอีก แล้วจะให้ใครแก้ไข และแก้ไขด้วยวิธีอะไร”

4 คำถามที่ออกมานั้นแน่นอนว่าเป็นความตั้งใจของนายกฯ ที่ต้องการสื่อสารกับประชาชน เพราะเป็นการพูดผ่านรายการโทรทัศน์ของรัฐบาล ไม่ใช่การให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน อันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า คสช.อยากให้มีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปก่อน

วิเคราะห์ไปถึงความชอบธรรมในการเลือกตั้งของ คสช.นั้นพอมีหรือไม่ พอจะได้คำตอบว่ามีเพียงแค่ความชอบธรรมทางการเมืองเท่านั้น เนื่องจากความชอบธรรมในทางกฎหมายไม่อาจทำให้ คสช.แตะต้องการเลือกตั้งได้ ต้องไม่ลืมว่าเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 แล้ว เท่ากับว่ากระบวนการเปลี่ยนผ่านต้องเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

เมื่อความชอบธรรมทางกฎหมายไม่สามารถช่วย คสช.ได้ คสช.ต้องหาความชอบธรรมในทางการเมือง โดยอาศัยความต้นทุนอันตกต่ำของนักการเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อหาช่องเลื่อนเลือกตั้ง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมานักการเมืองมีต้นทุนทางสังคมต่ำพอสมควร ซึ่งเป็นเรื่องที่โทษใครไม่ได้นอกจากต้องโทษตัวเอง

ทั้งการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทำลายหลักการระบอบประชาธิปไตย ปลุกปั่นและสร้างความขัดแย้ง จนเป็นช่องให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นการรัฐประหารเมื่อปี 2549 หรือ 2557 ซึ่งล้วนมาจากเหตุผลเดียวกัน

ความชอบธรรมที่ตกต่ำของนักการเมืองกลายเป็นความชอบธรรมที่ควรให้รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งเพื่อจัดการประเทศให้เข้ารูปเข้ารอยก่อน

แม้จะถูกตั้งคำถามเรื่องประสิทธิ์ในการทำงาน แต่การันตีได้ว่าในระหว่างที่ประเทศไม่มีการเลือกตั้งอยู่นั้นจะไม่มีกลุ่มการเมืองสีไหนออกมาปิดถนนประท้วงได้อย่างแน่นอน

ประหนึ่งว่าเอาความสงบของประเทศมาแลกกับการขออยู่ในตำแหน่งต่อไป หลังจากประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องผวากับการใช้เสรีภาพอันไร้ความรับผิดชอบของกลุ่มการเมืองมาตลอด 10 ปี

ทั้งหมดเป็นการเปลือยความคิดทางการเมืองของ คสช.ออกมาแล้วว่าตัวเองไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งตามโรดแมปที่ได้วางไว้ โดย คสช.รู้อยู่เต็ม อกว่าในทางกฎหมายไม่สามารถทำได้ จึงต้องอาศัยความเสื่อมศรัทธาในนักการเมืองของประชาชนเป็นตัวช่วย

ดังนั้น สถานการณ์นับจากนี้ไปต้องจับตาดูท่าทีของ คสช.อย่างใกล้ชิดว่าจะดำเนินการอย่างไร ภายหลังให้กระทรวงมหาดไทยไปรวบความเห็นของประชาชน

เพราะนั่นอาจหมายถึงการอาศัยช่องทางตรงนี้ผนวกกับอำนาจพิเศษที่ยังมีอยู่ในมือเพื่อเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ข่าวล่าสุด

นครชัยแอร์ ผนึก NEX ชิงดีลรถเมล์ไฟฟ้า ขสมก. 1,520 คัน มูลค่า 1.53 หมื่นล้าน