posttoday

ม็อบยางอ่อนแรง คสช.อ่อนล้า

12 มกราคม 2559

ร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ กับความเคลื่อนไหวของเกษตรกรชาวสวนยางที่ประกาศเตรียมออกมารวมตัวแสดงพลังให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์​

ร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ กับความเคลื่อนไหวของเกษตรกรชาวสวนยางที่ประกาศเตรียมออกมารวมตัวแสดงพลังให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จนสร้างความเดือดร้อนอย่างหนัก ในขณะที่มาตรการการแก้ปัญหาจากภาครัฐในช่วงปีกว่าที่ผ่านมายังไม่เห็นทิศทางว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

ยิ่งกว่านั้นท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างดุเดือด ยิ่งทำให้สถานการณ์อึมครึมมากขึ้น

"ถ้าจะออกมาชุมนุมก็ออกมา หากออกมาก็มีคดี ผมก็ทำของผมไป แต่ปัญหาราคายางตกต่ำ ผมมีการช่วยเหลืออยู่แล้ว และกำลังทำอยู่ ซึ่งการจะทำอะไรนั้นต้องใช้เงินหรือไม่" 

พร้อมแจกแจงภาระงบประมาณที่ต้องใช้หากต้องชดเชยกิโลกรัมละ 30 บาท จะต้องใช้เงิน 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งไม่สามารถเอาเงินภาษีประชาชนไปช่วยเหลือคนกลุ่มเดียวได้ ก่อนเสนอทางเลือกให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชเสริม ทั้งสตรอเบอร์รี่ กล้วยหอมทอง ในสวนยางเพื่อเสริมรายได้

ต้องยอมรับว่าราคายางดำดิ่งลงเหลือเพียงแค่ 3 กิโลร้อยนั้น มาจากหลายปัจจัยที่ทับถมกันมาเรื่อยๆ ทั้งการที่เกษตรกรหันมาปลูกยางพารากันมากขึ้นเกือบ 4 ล้านไร่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ยังไม่รวมกับเพื่อนบ้าน ทั้งลาว เมียนมา กัมพูชา และ เวียดนาม ปลูกยางพารามากขึ้นเช่นกัน สอดรับกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง จึงยิ่งทำให้ความต้องการยางพาราในตลาดโลกลดลงหนักกว่าเดิม

ขณะที่มาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาลช่วงที่ผ่านมายังถูกมองว่าไม่ตรงจุด ยังไม่รวมกับความรู้ความสามารถของรัฐมนตรี หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งช่องว่างที่ยังไม่มีการแต่งตัั้งผู้จัดการ และบอร์ดการยางแห่งประเทศไทยมาทำหน้าที่ดูแลระบบ

สุดท้ายแรงกระเพื่อมจึงกลับมาก่อตัวอีกรอบหลังเงียบหายไปพักใหญ่ เมื่อเกษตรกรสวนยางนัดรวมตัวเพื่อหาทางออกและข้อเสนอไปยังนายกฯ พร้อมสัญญาณขู่เตรียมออกมาชุมนุม จนวิตกว่านี่จะเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ที่ออกมาเขย่า คสช.

แต่ประเมินแล้วพลังของม็อบสวนยางในเวลานี้ ยังยากที่จะจุดติดหรือสามารถสั่นคลอนเสถียรภาพของ คสช.ได้ง่ายๆ  

อย่าลืมว่าเกษตรกรสวนยางถือเป็นฐานเสียงสำคัญที่เคยสนับสนุน คสช.มาตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเรื่อยมา แม้จะเดือดร้อนอย่างหนัก แต่เมื่อ พระสุเทพ ปภากโร ออกมาส่งสัญญาณเบรกเพื่อให้ คสช.ได้มีเวลาและสมาธิกับเรื่อง "ปฏิรูป" จนบรรดาแกนนำที่ออกมาเคลื่อนไหวก็ต้องจำใจกัดฟันกลับไปอดทนรอต่อไป

ล่าสุด สุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะใหม่ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ยังเล่นบทเดิม ขอให้เกษตรกรเห็นใจรัฐบาล เพราะสถานการณ์ทางการเงินไม่ค่อยดี ก่อนออกตัวยินดีร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนในการคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหา

"ผมเชื่อในความจริงใจของนายกฯ ว่า ท่านตั้งใจทำ แต่ผมไม่เชื่อในทีมงานของท่าน เนื่องจากทีมที่แก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรไม่มีความเป็นเอกภาพ ไม่มีคนที่มีอำนาจจริงที่สามารถสั่งการแทนนายกฯ ได้ เช่น คนที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายยางของรัฐบาลที่ไม่ได้มีอำนาจสั่งหน่วยงานทุกกระทรวงได้ จนนายกฯ ต้องคาดโทษ"

อีกด้านหนึ่งเงื่อนไขการชุมนุมเวลานี้ ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ ที่จะมีรายละเอียดปลีกย่อยทั้งรูปแบบ สถานที่ ระยะเวลา ซึ่งจะทำให้การชุมนุมปิดถนนหรือรูปแบบอื่นๆ ที่เคยทำมาในอดีตเวลานี้ไม่อาจทำได้อีกต่อไป มิฉะนั้นจะมีความผิดติดตัว

ที่สำคัญบทเรียนจากในอดีตยังช่วยสะกดไม่ให้แกนนำออกมาเคลื่อนไหว เพราะช่วงการชุมนุมปิดถนนสี่แยกอันดามัน เมื่อครั้งสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น 4 แกนนำม็อบถูกพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับคนะ 2,500 บาท ที่ยังอยู่ในช่วงรอลงอาญา

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่แกนนำชุดเดิมจะเดินหน้าออกตัวมานำการชุมนุมรอบใหม่ ทั้งที่ยังติดเรื่องรอลงอาญาอีก 2 ปี ขณะที่แกนนำหน้าใหม่ก็ไม่อยากจะเอาตัวไปเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางเมื่อมีตัวอย่างให้เห็น หรือหากจะเดินล้ำหน้าไปมากกว่านี้ก็จะถูกตัดตอนเรียกไปปรับทัศนคติได้

บรรดานักการเมืองโดยเฉพาะประชาธิปัตย์ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ปลูกยางส่วนใหญ่นั้น ก็ทำได้เพียงแค่ออกมาประกาศให้การสนับสนุนประชาชนและเป็นตัวกลางยื่นข้อเสนอไปยังรัฐบาล คสช. แต่ถ้าจะให้ออกมาเป็นแกนนำเคลื่อนไหวก็เป็นไปได้ยาก เพราะหลายคนก็ยังมีคดีอื่นที่ติดตัวมาตั้งแต่ชุมนุม กปปส.

ล่าสุด ถาวร เสนเนียม อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ พาทีมไปยื่นข้อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนออกตัวไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวชุมนุม

การเคลื่อนไหวเรื่องนี้จึงเป็นไปได้ยาก แต่ทว่านี่ยังเป็นปมร้อนที่คอยกัดกร่อน คสช.ต่อไป ตราบใดที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หรือแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการแก้ปัญหาไม่ใช่เพียงแค่โทษกลไกตลาดโลกหรือแค่โยนบาปไปให้รัฐบาลที่แล้ว

ปัญหาราคายางจึงไม่ใช่จะจบลงง่ายๆ อยู่ที่ฝีไม้ลายมือ คสช.ว่าจะสะสางเรื่องนี้อย่างไรไม่ให้ปัญหาบานปลายจนกระทบไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่ทำมาทั้งหมด หากแก้ไขไม่ได้นี่จะกลายเป็นชนวนอันตรายที่ซ้ำเติมสถานการณ์ของ คสช.ที่ย่ำแย่อยู่แล้วให้หนักกว่าเดิม

ข่าวล่าสุด

รับสุขแรกของปี ฮีลใจฮีลกายกับงาน “กรุงเทพดีต่อใจ” สวนป่ากลางกรุงฟรี 3 วัน