posttoday

ชิงดำ ผบ.ทบ. อำนาจบิ๊กตู่กระเพื่อม

28 สิงหาคม 2557

สัญญาณเริ่มไม่สู้ดีเมื่อศึกชิงดำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กำลังก่อตัวกลายเป็นแรงกระเพื่อม

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

สัญญาณเริ่มไม่สู้ดีเมื่อศึกชิงดำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กำลังก่อตัวกลายเป็นแรงกระเพื่อม แถมทำท่าจะบานปลายกลายเป็นคลื่นใต้น้ำ กัดเซาะกองทัพ สะเทือนไปถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

เมื่อคู่ชิงระหว่าง บิ๊กโด่ง-พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. และ บิ๊กต๊อก-พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. กำลังไล่บี้ทำคะแนนในโค้งสุดท้าย จนยากจะฟันธงคนเข้าวินรอบนี้

แม้ในช่วงระยะหลัง พล.อ.อุดมเดช จะแรงปลายจนเริ่มเบียดแซง พล.อ.ไพบูลย์ แต่การขับเคี่ยวของทั้งคู่ยังดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด

ล่าสุด พล.อ.ไพบูลย์ ปรากฏตัวที่บ้านสี่เสาเทเวศร์เพื่อเข้าอวยพรวันเกิด 94 ปี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งที่ในปีนี้ พล.อ.เปรม งดเปิดบ้านให้เข้าอวยพรวันเกิดเหมือนปีที่ผ่านๆ มา มีเพียงแค่การจัดงานส่วนตัวเท่านั้น

ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และ ผบ.เหล่าทัพ ได้แต่ส่งเลขานุการนำดอกไม้ไปอวยพรวันเกิด

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึง “แรงหนุน” ที่ทำให้ พล.อ.ไพบูลย์ ยังมีความหวังได้ลุ้นกับเก้าอี้ ผบ.ทบ. รอบนี้ต่อไป

อีกด้านหนึ่ง พล.อ.อุดมเดช ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวเต็งจากฝั่งบูรพาพยัคฆ์ ด้วยผลงานโดดเด่นจนถูกมอบหมายให้รับหน้าที่เป็นเลขาธิการ คสช. และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ยังได้เข้าอวยพรวันเกิดล่วงหน้า 71 ปีวันที่ 28 ส.ค. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่มูลนิธิรัฐบุรุษฯ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมาย

งานนี้จึงอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ พล.อ.ไพบูลย์ออกอาการสะดุดขาตัวเองจนคะแนนถดถอย ไม่ว่าจะโดยความพลั้งเผลอหรือถูกกลั่นแกล้งอย่างที่เจ้าตัวพยายามออกมาชี้แจง

เริ่มตั้งแต่เรื่องแรก เมื่อครั้งออกมาจุดประเด็นเสนอให้พิมพ์ธนบัตรชนิดใหม่ ดัดหลังการทุจริตคอร์รัปชั่นและธุรกิจมืด พร้อมยกตัวอย่างที่มาที่ไปจากสาเหตุที่ตรวจสอบบ้านพักของบุคคลหลายแห่งพบกระเป๋าเปล่า 40 ใบ คาดว่าใช้ขนเงินสด

ดังนั้น หากยกเลิกธนบัตรแบบเดิมและเปลี่ยนเป็นธนบัตรแบบใหม่ จะเป็นการบังคับให้ผู้ครอบครองธนบัตรเหล่านี้นำเงินสดมาแลกเปลี่ยนเป็นธนบัตรชุดใหม่ ทำให้ทางสถาบันการเงินจะสามารถตรวจสอบและแก้ปัญหาเงินที่มาจากคอร์รัปชั่น

แนวคิดนี้ถูกโจมตีอย่างหนักก่อนที่ พล.อ.ไพบูลย์จะพยายามเก็บเนื้อเก็บตัวและระมัดระวังคำพูด การแสดงความคิดเห็นมากยิ่งขึ้น

ก่อนจะเจอ “แผลใหม่” ที่หนักขึ้นกว่าเดิม เมื่อสื่อมวลชนสำนักหนึ่งเผยแพร่บทสัมภาษณ์ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ว่า คสช.มีแผนเตรียมทำโพลสอบถามการออกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมือง ที่ลากโยงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เป็นเรื่องเปราะบางอย่างหนัก

ร้อนจน พล.อ.ไพบูลย์ ต้องรีบออกมาชี้แจงอย่างมีอารมณ์ว่าไม่เคยพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ และไม่เคยพูดถึงเรื่องการทำโพลอะไรทั้งสิ้น

“โอ้โหบ้า เพ้อเจ้อ ผมถึงถามว่าโพลบ้าบออะไร จะต้องทำโพลทำไม ผมและ คสช.ไม่มีความจำเป็นต้องทำคดีนักการเมืองที่ผิดกฎหมาย คุณผิดกฎหมายอยู่แล้ว”

“คุณกำลังทำอะไรกันอยู่ คุณกำลังจะสร้างอะไรให้ผม ผมไม่เข้าใจ คุณไปรับอะไรจากใครมาถึงเขียนแบบนี้ ผมไม่เข้าใจ การปรองดองกำลังเดินหน้า”

ภาพการร้อนตัวจนออกอาการเช่นนี้ ส่งผลให้เส้นทางสู่เก้าอี้ ผบ.ทบ. ดูจะยิ่งมีปัญหา จนแว่วว่าปรับโผรอบนี้อาจจะได้ขยับมานั่งเป็น รอง ผบ.ทบ. พร้อมเตรียมเก้าอี้ รมว.ยุติธรรมไว้ปลอบใจอีกตำแหน่ง ในฐานะที่ถูกมอบให้รับผิดชอบงานด้านกฎหมายกระบวนการยุติธรรมมาแต่ต้น

โผ ครม.ที่ยังฝุ่นตลบอยู่ในเวลานี้ ว่ากันว่าปัจจัยหนึ่งเพราะต้องการจัดการ “โผทหาร” ให้เรียบร้อยลงตัวเสียก่อน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของการลดแรงกดดันไม่ให้ประดังมาพร้อมกัน หรือเป็นการเปิดตำแหน่งรอไว้ปลอบใจบิ๊กทหารที่พลาดพลั้งหลุดโผ

ต้องยอมรับว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีรอบนี้ค่อนข้างเปราะบางเป็นพิเศษ ท่ามกลางสถานการณ์ไม่ปกติ แถมยังเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของเส้นทางการปฏิรูป

ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเกษียณพ้นเก้าอี้ ผบ.ทบ. ในเดือน ก.ย. พร้อมกับ ผบ.เหล่าทัพยกแผง ทั้ง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.

ดังนั้น การจัดวางขุมกำลังกองทัพเพื่อเป็นมือไม้เข้ามารับงานรอบนี้จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ทั้งในแง่การวางตัวบุคคลและการป้องกันแรงกระเพื่อมที่จะเป็นปัญหาในอนาคต อันอาจจะเป็นชนวนทำให้กระบวนการปฏิรูปตามโรดแมปที่วางไว้มีปัญหา

ส่องดูโผทหารเวลานี้ นอกจากคู่ชิงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ระหว่าง พล.อ.อุดมเดช และ พล.อ.ไพบูลย์ ในส่วนของ 5 เสือ ทบ.เดิม จะเห็นการขยับทั้ง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. ที่โยกไปเป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก

เปิดทางให้ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 2 ขยับเข้าไลน์ 5 เสือ ทบ.ในตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ.

ส่วนตำแหน่ง เสธ.ทบ.นั้น มีข่าวว่า พล.อ.อักษรา เกิดผล จะถูกขยับข้ามห้วยไปนั่ง รอง ผบ.สส. พร้อมวางตัว พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รอง เสธ.ทบ. หรือ พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาขึ้นมาเป็น เสธ.ทบ.

ถัดมาที่ตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพอื่นๆ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผช.ผบ.ทร. จะขึ้นเป็น ผบ.ทร.คนใหม่ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง เสธ.ทอ. ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. และ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. จะขึ้นเป็น ผบ.สส. ขณะที่ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารถูกวางตัวเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม

สุดท้ายคงได้แต่รอลุ้นว่าโผทหารรอบนี้จะออกมาอย่างไร และจะมีแรงกระเพื่อมออกมามากน้อยแค่ไหน รวมทั้ง คสช.จะจัดการกับปัญหาอย่างไร