"ปู 3" รุกใหญ่ โละเกรดเอ ปูทาง 111

โดย...ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม

ความขัดแย้งทางการเมืองพักรบชั่วคราว กับประเด็นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รออีกเดือนกว่าที่สภาจะเปิดสมัยประชุมในเดือน ส.ค. ถึงจะลุยกันอีกรอบ

เงื่อนไขความขัดแย้งยังดำรงอยู่ และรอเป็นเชื้อปะทุครั้งใหญ่ เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันกับสื่อญี่ปุ่นว่า กำลังรอให้กฎหมายปรองดองผ่านความเห็นชอบจากสภา เพื่อจะได้เดินทางกลับไทย และไม่ปฏิเสธที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

ระหว่างรอศึกปรองดองนอกสภาและในสภา ระเบิดการเมืองได้กลับมาเขย่าที่พรรคเพื่อไทยที่กำลังฝุ่นตลบแย่งชิงเก้าอี้กับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหญ่ที่กำลังจะมีขึ้น

รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ 3” ว่ากันว่าจะปรับใหญ่กว่าทุกครั้ง ต้อนรับการกลับมาของ “ทักษิณทีมเอ” บ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทย ที่เพิ่งพ้นโทษคดียุบพรรคมา 5 ปี เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

คาดว่าจำนวนรัฐมนตรีที่ถูกปรับส่วนใหญ่จะเป็น “รัฐมนตรีว่าการเกรดเอ” หลายกระทรวง

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2554 แถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 23 ส.ค. จนถึงวันนี้บริหารประเทศเป็นเวลา 10 เดือนกว่า หรือเกือบครบปี ปรับไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2555

เป็นข้อตกลงที่รับรู้ภายในพรรคเพื่อไทยว่า “นายใหญ่” จะปรับ ครม.ทุกๆ 6 เดือน เพื่อหมุนเวียนเก้าอี้ให้คนในพรรคได้มีโอกาสบริหารประเทศกันถ้วนหน้า เป็นการตอบแทนตำแหน่งให้แกนนำพรรคและเสื้อแดง ที่ทุ่มเทสรรพกำลังหลังจากร่วมต่อสู้ทำให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลสำเร็จ

สำหรับการปรับ ครม.รอบนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นในเร็ววัน ยึดหลัก 4 แนวทาง

1.เปิดโอกาสให้กลุ่ม 111 อดีตไทยรักไทย กลับมาเป็นรัฐมนตรีเพื่อเสริมเกมรุกให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ หลังจากบรรดาแกนนำ 111 อยู่เบื้องหลังช่วยพรรคมานานในช่วงที่พรรคเป็นฝ่ายค้าน

2.ตอบแทนตำ แหน่งตามที่สัญญาไว้ 3.กระชับอำนาจ สร้างภาวะผู้นำให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ 4.ปรับหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่จะมีขึ้นในสมัยประชุมสภาหน้า

ตามข่าวตำแหน่งที่จะมีการปรับเปลี่ยน ประกอบด้วย

 

1.รมว.มหาดไทย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองนายกฯ ควบ มท.1 ล่าสุดถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางวินัยและทางอาญาขณะเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในคดีที่ดินอัลไพน์ มีแนวโน้มว่าจะถูกปรับออกเหลือรองนายกฯ ตำแหน่งเดียว

ตัวเต็งหลายคนจากกลุ่ม 111 ที่จะมาเสียบแทน ล้วนเป็นมือทำงานของทักษิณสมัยรัฐบาลไทยรักไทย เช่น พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รุ่นพี่ทักษิณสมัยเตรียมทหาร เคยเป็นรองนายกฯ รมว.มหาดไทย และ รมว.ยุติธรรม ภูมิธรรม เวชยชัย อดีต รมช.คมนาคม เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และ รมช.มหาดไทย

2.รมว.ยุติธรรม ปัจจุบันมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นรัฐมนตรี แต่พรรคถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณสมัยที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ข้ามห้วยจากฝ่ายค้านมาให้พรรคเพื่อไทยยืมตัวเสนอแข่งนายกรัฐมนตรีกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ช่วงเปลี่ยนขั้วหลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบหมดแล้ว และ พล.ต.อ.ประชา ไม่มีพวกในพรรคมาก จึงอาจถูกปรับเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ

ตำแหน่งนี้มีชื่อ พงศ์เทพ เทพกาญจนา มือกฎหมายของพรรค และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงในรัฐบาลทักษิณ โดยเฉพาะเคยเป็น รมว.ยุติธรรม มาก่อน แต่ถ้าพงศ์เทพไม่ได้ก็อาจถูกเสนอชื่อเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลงานกฎหมายให้กับรัฐบาล

3.รมว.ศึกษาธิการ ปัจจุบัน สุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็นอยู่ แต่มีเรื่องร้อนในกระทรวงมาก เช่น ความไม่พร้อมในนโยบายแท็บเล็ต ปัญหาแป๊ะเจี๊ยะที่อาจนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า จาตุรนต์ ฉายแสงถูกวางตัวเป็น รมว.ศึกษาธิการ ทว่าช่วงหลังบทบาทอดีตรักษาการผู้นำพรรคไทยรักไทยผู้นี้ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้เปิดหน้าชนศาลรัฐธรรมนูญอย่างแรง และยังเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 สร้างความขุ่นเคืองให้กับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เพราะถือว่าเล่นบทล้ำหน้าพรรคเพื่อไทย จึงอาจส่งผลต่อการขึ้นเป็นรัฐมนตรีได้ ซึ่งก็มีชื่อ พงศ์เทพ ติดมาเป็น “เสมา 1” อีกคน

4.รมว.พาณิชย์ ที่มี บุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นเจ้ากระทรวง ถือหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่กลับเผชิญปัญหามากมาย ทั้งเรื่องสินค้าราคาแพง ยอดส่งออกไม่เข้าเป้า และยังสะท้อนผ่านโพลทุกสำนักว่า กระทรวงพาณิชย์ล้มเหลวในการแก้ปัญหาของแพง จนเป็นจุดอ่อนของรัฐบาล

เดิม วราเทพ รัตนากร ถูกวางเป็น รมว.พาณิชย์ แทน บุญทรง เพราะอยู่ในโควตาเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ แต่ วราเทพอาจติดปัญหาคุณสมบัติ เพราะเจ้าตัวต้องคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้จำคุกในคดีหวยบนดิน 2 ปี โดยให้รอลงอาญา ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรีไว้ว่า “ต้องไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยพ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี”

5.รมว.กลาโหม มีข่าวสะพัดตลอดว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เจ้ากระทรวงอาจหลุด โดย ยิ่งลักษณ์ อาจลงมาควบอีกตำแหน่งตามยุทธศาสตร์ประนีประนอมกับกองทัพ

6.รมว.คมนาคม ปัจจุบัน จารุพงศ์เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นอยู่ แต่รู้กันว่าไม่ใช่ตัวจริง

แว่วว่า พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล “เฮียเพ้ง” จากกลุ่ม 111 จะกลับมานั่งเก้าอี้ตัวนี้อีกครั้ง โดยอาจควบรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจอีกตำแหน่ง

นอกจากพรรคเพื่อไทยจะปรับเปลี่ยนคนแล้ว พรรคร่วมจะปรับ ครม. ในส่วนที่รับผิดชอบด้วย โดยให้กลุ่ม 111 มารับตำแหน่ง อาทิ

7.รมว.อุตสาหกรรม สุวัจน์ ลิปตพัลลภ กลุ่ม 111 เจ้าของพรรคชาติพัฒนา จะเข้ามาเป็นแทน ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์

8.รมว.วัฒนธรรม ค่อนข้างชัดเจนว่า สนธยา คุณปลื้ม เจ้าของพรรคพลังชล จะใช้สิทธิ 111 แทน สุกุมล คุณปลื้ม ผู้เป็นภรรยา ที่ถูกส่งไปชิมลางก่อน

9.รมว.เกษตรและสหกรณ์ รอบนี้บรรหาร ศิลปอาชา เจ้าของพรรคชาติไทยพัฒนา จะส่ง ยุคล ลิ้มแหลมทอง อดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ มาแทน ธีระ วงศ์สมุทร

เบื้องต้นยกมาเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ยังไม่นับตำแหน่ง “รัฐมนตรีช่วย” ที่จะหมุนเวียนสลับอีกหลายเก้าอี้

ทั้งหมดเป็นโอกาสทองของกลุ่ม 111 และหลายกระทรวงที่จะถูกปรับล้วนตกเป็นเป้าถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ความสำเร็จที่ทักษิณคาดหวังน่าจะช่วยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้มแข็งขึ้น ทั้งภาพความเชื่อมั่นและความสามารถของกลุ่ม 111 แต่ถ้ายังไม่ปลดล็อกถอนพ.ร.บ.ปรองดอง “ปู 3” แม้จะดึงผู้ชำนาญการตัวจริงมาเสริมทัพจำนวนมาก ก็อาจหัวคะมำกว่าที่คาดก็ได้