posttoday

สตง.อิสระไร้อคติ ลุยงานเชิงรุกปราบทุจริต

15 มกราคม 2560

"ถือเป็นความเลวร้ายอย่างหนึ่ง มีการแบ่งผลประโยชน์ แรกๆ คอร์รัปชั่น โดยคอมมิชชั่น แต่ยุคนี้เป็นคอร์รัปชั่นที่เป็นนโยบาย ขายงบ แปรญัตติ แต่รัฐธรรมนูญใหม่แก้ไขแล้วอาจจะมีขึ้น"

โดย....ธนพล บางยี่ขัน

การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นถือเป็น เป้าหมายสำคัญตามที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศวาระแห่งชาติและเรื่องเร่งด่วนที่จะเข้ามาแก้ไข ดังจะเห็นจากหลายมาตรการที่ออกมาควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินให้มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ในฐานะกลไกตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ฉายภาพปัญหา ตลอดจนการทำงานที่ผ่านมา

รอบปี 2559 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้าไปตรวจสอบเรื่องต่างๆ 13,504 เรื่อง รวมแล้วสามารถเรียกคืนงบประมาณหรือจัดเก็บรายได้เพิ่ม 76,276 ล้านบาท

"การทำงานของ สตง.มีอิสระ ที่จะเลือกตรวจซึ่งไม่ใช่เลือกปฏิบัติ แต่เลือกตรวจจากจุดที่มีความเสี่ยง ที่จะมีความผิดปกติเสียหายได้ง่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่พัฒนาทักษะความชำนาญมากขึ้น ด้วยความสำนึกที่ว่าถ้าเราไม่ตรวจเรื่องก็จะจบไป หรือถ้าเราไม่สุ่มให้ถี่ การใช้งบก็จะมีตกหล่นรั่วไหล" พิศิษฐ์ อธิบาย

ถามว่าการทำงานยุคนี้ต่างจากที่ผ่านมามากน้อยแค่ไหน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ย้ำว่า ขอให้ประชาชนเจ้าของเงินมั่นใจว่า สตง.ทำงานโดยอิสระปราศจากอคติ ช่วงที่ผ่านมา ยุคการเมืองก็มีเรื่องเชิงนโยบายที่ผิดถูกยังไงเอาถูกใจไว้ก่อน ยุคนี้ไม่มีนักการเมือง มีแต่คนที่มาปฏิรูปเรื่องการใช้ประเด็นเชิงนโยบายจ่ายเงิน ไม่คำนึงผลลัพธ์ จึงต่างจากอดีต

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สตง.เข้าไปตรวจสอบย้อนหลังพบว่ามีหลายโครงการทำไปโดยไม่สะท้อนประโยชน์ความคุ้มค่า หลายโครงการทำทิ้งทำขว้าง เช่น การจัดซื้อรถดูดฝุ่น ใช้งบสนับสนุนลงท้องถิ่นคันละ 3-4 ล้านบาท แต่ใช้ไม่ได้ หาอะไหล่ไม่ได้ ต้องจอดทิ้งไว้ หรือสนามกีฬา ฟุตซอลที่ประกันสิ่งปลูกสร้าง 2 ปี แต่ปีเดียวก็เสียหายใช้งานไม่ได้

"ถือเป็นความเลวร้ายอย่างหนึ่ง มีการแบ่งผลประโยชน์ แรกๆ คอร์รัปชั่น โดยคอมมิชชั่น แต่ยุคนี้เป็นคอร์รัปชั่นที่เป็นนโยบาย ขายงบ แปรญัตติ แต่รัฐธรรมนูญใหม่แก้ไขแล้วอาจจะมีขึ้น"

พิศิษฐ์ บอกว่า การทำงานที่ผ่านมา เมื่อ สตง.พบความไม่ถูกต้องก็จะต้องส่งหนังสือ แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการตรวจสอบเชิงรุกที่จะมหนังสือเตือนว่าจะ เกิดความเสียหาย หรืออาจเสี่ยงผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย แม้ตอนแจ้งเตือนความผิดจะยัง ไม่เกิด แต่หากต่อไปแจ้งเตือนแล้วยังละเลยไม่ใส่ใจก็จะมีปัญหาได้ มีกรณีตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นคือกรณีจำนำข้าว

"ครั้งนั้น สตง.ศึกษาแล้วมีข้อเสียอย่างน้อย 8 ข้อ จุดรั่วไหลอาจเกินเยียวยาในอนาคต จึงมีหนังสือแจ้งเตือนไป 4 ฉบับ แต่สุดท้าย ป.ป.ช.เห็นว่าเมื่อแจ้งเตือนไปแล้ว หน่วยงานจะต้องพิจารณาหาแนวทางป้องกันแก้ไข แต่แทบไม่ทำอะไรเลย จึงเป็นการละเลยละเว้น ดังนั้น สตง.ระยะหลังจึงมีบทบาทด้านนี้ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นเรื่องดีที่จะได้มีการทบทวนให้แน่ใจ"

ปัญหาเรื่อง "หัวคิว" ที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ในอดีตนั้น ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน มองว่า เมื่อนำระบบสัญญาคุณธรรมเข้ามาก็ทำให้ราคากลางลดลง และราคากลางคือตัวดึงดูดของการ ฮั้วงาน ถ้าราคากลางสูงเกินจริงเขาต้องหาคนมารับงาน สุดท้ายก็ต้องฮั้วงานกันเพื่อกอบโกยส่วนเกินของราคากลาง ถ้าราคากลางควรจะเป็น 100 ก็เป็น 130

พิศิษฐ์ อธิบายเพิ่มว่า จากการตรวจสอบ เชิงนโยบายที่ผ่านมามีสูตรทำมาหากิน 30-20-30 ถ้างบ 100 จะมีการบวกในงบไป 30 ก่อน อีก 20 เป็นเบี้ยบ้ายรายทาง เหลือเป็นกำไร 30 เหลือ 20 เราถึงได้ของห่วย สนามคอนกรีตที่ควรหนา 15 เซนติเมตร ก็เหลือ 8 เซนติเมตร ประกัน ไม่ถึง 2 ปี แตกร้าว เสียหาย

"ผมได้อาสาเข้ามา ก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รักษาความสง่างามสำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดินไว้ให้เป็นแบบอย่าง ตามที่ได้รับความไว้วางใจให้มาทำหน้าที่ ทำงานอย่างตรงไป ตรงมา เต็มที่ ได้วางรากฐานการตรวจเงิน และสะท้อนให้ประชาชนได้รับรู้การทำงานของ สตง. ตามแนวทางพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 9 ที่ว่า การควบคุมตรวจสอบเงินแผ่นดินเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เพราะเป็นเงินแผ่นดินของประชาชนทั้งชาติ" พิศิษฐ์ กล่าว.

เกาะติดประมูลรถไฟทางคู่

ล่าสุดกับกรณีทำหนังสือแจ้งเตือนไปยัง รฟท. เรื่องรถไฟทางคู่ ที่มีมูลค่ารวม 9 หมื่นล้านบาท กรณีความเหมาะสมในการแฝงงบจัดซื้อ ที่ในสัญญาจ้างระบุว่าผู้รับจ้างจะต้องจัดหาเครื่องจักร และสุดท้ายจะต้องยกให้ทางราชการ โดยซ่อมให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ ซึ่งตรงนี้ปกติงานจ้างทั่วไปไม่ต้องกำหนด  แต่ทาง รฟท.ชี้แจงว่าเป็นเรื่องการทำราง ไม่เหมือนก่อสร้างทั่วไป

"ถ้าไม่มีการจัดซื้อเครื่องมือเครื่องใช้ อย่างนี้มาประกอบวางรางการทำรางก็ไม่สามารถทำได้ เขาบอกว่ายังไงเสียผู้รับจ้างก็ต้องไปจัดหาเครื่องมืออยู่แล้ว จึงอาจไปบวกไว้ในต้นทุน แต่สุดท้ายคุณต้องซ่อมมาให้ อันนี้อาจมีประโยชน์มากกว่าการไปบวกค่าโสหุ้ย เป็นซากก็เป็นของเขา แต่นี่เป็นซากเป็นของเรา แต่สัญญาบอกต้องซ่อมอยู่ในสภาพใช้งานได้ปกติ เป็นความรับผิดชอบของรถไฟฯ"

พิศิษฐ์ บอกว่า จะติดตามต่อไปว่าเมื่อสัญญาสิ้นสุดจะอยู่ในสภาพใช้งานได้ไหม และเขาซ่อมให้ดีเหมือนเดิมหรือเปล่า ตรงนี้จะพิสูจน์ว่าคุ้มกันไหม ซึ่งต้องเคารพการตัดสินใจของเขา สะท้อนการทำงานของ สตง. ซึ่งไม่ได้ถือว่าการทำงานของ สตง.เด็ดขาด แต่เปิดใจรับฟังคำชี้แจงด้วย ซึ่งถูกต้องหรือไม่ถูกต้องผลระยะยาวจะบอกเองในอนาคต

อย่างไรก็ตาม รถไฟทางคู่ถือเป็นโครงการใหญ่ ต้องดูหลายจุด ทั้งการแข่งขันเป็นธรรมหรือเปล่า มีหลายรายเข้าแข่งหรือเปล่า รวมถึงรายละเอียด ประสิทธิภาพความคุ้มค่า เทคโนโลยี นวัตกรรม ที่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือไม่ ไทยเรามีอุบัติเหตุตกรางบ่อยๆ ก็ควรมีมาตรการป้องกัน

นอกจากนี้ จะต้องดูในมิติของสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดมลภาวะทางเสียงที่จะรบกวนแหล่งชุมชนรอบข้างที่จะขยายตัวตามมาในอนาคต หากมีการออกแบบแก้ปัญหาไว้จะสามารถลดการร้องเรียนและความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงประหยัดงบประมาณในการแก้ปัญหาในอนาคต และยังต้องดูในมิติงบประมาณในการซ่อมบำรุงเส้นทางและซ่อมบำรุงเชิงกลกับอุปกรณ์ที่จะเกิดขึ้นด้วยว่าสามารถลดงบประมาณในภาพรวมในการดูแลบำรุงรักษา

ในช่วงที่โครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล คสช.กำลังเร่งเดินหน้านั้น พิศิษฐ์ กล่าวว่า สตง.เข้าไปติดตามตั้งแต่เริ่มต้นและจะประเมินผลตามหลังคู่ขนานกันไป โดยตอนนี้มีการใช้ระบบ

สัญญาคุณธรรมที่ให้มีภาคส่วนอื่นที่ไม่ได้เป็นส่วนราชการก็ช่วยได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งทำงานเกาะติดแบบเรียลไทม์ เดินตามหลัง ไม่ล้ำหน้า เอาไฟฉายจี้หลังไปให้ทุกอย่างอยู่ในความสว่าง ใครจะทำอะไรก็คงยาก

"เรามีประสบการณ์เกาะติด จี้ติด จะช่วยป้องกันได้ดีมากกว่าที่จะให้เขาเดินแล้วเราเดินไปสะกดรอยตามหลัง เกิดความเสียหายไปแล้วถึงมาเจอ เพราะแค่เสี่ยงเสียหายแจ้งเตือนก็มีความหมาย ซึ่งต่อไปเราจะเพิ่มการตรวจสอบเชิงรุกให้มาก ใส่อัตรากำลังในโครงการใหญ่ๆ เริ่มตั้งแต่ประกวดราคาที่จะต้องมีคำแนะนำ แต่ไม่ใช่ก้าวล่วงการตัดสินใจ เพราะเชื่อว่าป้องปรามดีกว่าการปล่อยให้เกิดความเสียหาย" 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด วูล์ฟ พบ แมนยู พรีเมียร์ลีก วันนี้ 8 ธ.ค.68