posttoday

"สีกากีคือสีของดิน ภูมิใจที่ได้รับใช้แผ่นดิน" ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล

17 ตุลาคม 2559

"สาเหตุที่ชุดข้าราชการเป็นสีกากี เพราะเป็นสีของดิน ฉะนั้นข้าราชการทุกคนจึงเปรียบเสมือนเป็นพลังของแผ่นดิน พลังของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

โดยทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

“เราคนไทยด้วยกันทั้งหมด มีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกัน ผู้ทรงเป็นหลักชัยของบ้านเมือง คนไทยอยู่ได้ภายใต้ความร่มเย็นเป็นสุข ด้วยพระบุญญาบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” คำกล่าวตอนหนึ่งของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งโพสต์ทูเดย์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ต.ค. 2559 ในประเด็นหลักการทำงานตลอดช่วงชีวิตรับราชการ 37 ปี ก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“บุคคลที่สูงสุดในชีวิตของคนไทยก็คือ ในหลวง ฉะนั้นอยากให้ข้าราชการทุกคนมีบุคคลที่เป็นแบบอย่างในดวงใจ เพื่อจะได้มีต้นแบบที่ดีในการใช้ชีวิตทำงาน เช่น ผู้ว่าฯ นายอำเภอ หรือหัวหน้าหน่วย ส่วนนักเรียนควรมีครูอาจารย์เป็นแบบอย่าง เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นสังคมซึ่งไร้ทิศทาง เมื่อนั้นอาจจะลำบาก”

ม.ล.ปนัดดา เล่าว่า ตลอดชีวิตการรับราชการ 37 ปี เห็นอะไรมาเยอะ ตั้งแต่ผู้บริหาร สิ่งแวดล้อม กรอบความคิดผู้ทำงาน แต่ถึงอย่างไรตนเองก็รู้สึกภูมิใจ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้เป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฉะนั้นจึงต้องทำงานเพื่อให้นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นผล จึงคิดว่าไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งอะไร ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ฯลฯ แต่ถ้ามุ่งมั่นปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบก็จะเกิดผลดีต่อสังคมที่ตนเองดูแล แต่เมื่อได้เข้ามาเป็นผู้ปฏิบัติงานในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนกลาง การทำงานจึงต้องปรับเปลี่ยนไปจากรูปแบบบทบาทที่เคยทำมา

“สาเหตุที่ชุดข้าราชการที่สวมเป็นสีกากี เพราะเป็นสีของดิน เมื่อเปรอะเปื้อนอะไรก็จะมองไม่เห็น ฉะนั้นจึงเป็นที่มาของสีกากี นอกจากนี้ความหมายของสีกากี ที่เป็นสีของดิน เป็นสีที่เรียกว่าพลังของแผ่นดิน ตรงกับพระนามของในหลวง ภูมิพลฯ ฉะนั้นข้าราชการทุกคนจึงเปรียบเสมือนเป็นพลังของแผ่นดิน พลังของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ม.ล.ปนัดดา กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

ม.ล.ปนัดดา เล่าอีกว่า เมื่อได้เข้ามารับตำแหน่งนี้ ไม่เคยคิดที่จะรบกวนเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเดิม (กระทรวงมหาดไทย) เพราะส่วนตัวมีแนวคิดว่า ถ้าอยู่ที่ใดจะต้องเป็นคนของที่นั่น หมายถึงการจะนำใครมาช่วยงาน ควรต้องให้เกียรติผู้ที่อยู่ในหน่วยงานนั้น ไม่ใช่จะพาใครมาจากหน่วยงานเดิม มาทำหน้าที่อาวุโสในหน่วยงานใหม่ เพราะตนมีความเชื่อว่าใครจะรู้จักหน่วยงานดีกว่าคนที่อยู่มาแต่เดิม

“ตอนที่ผมเข้ามาทำงานในทำเนียบฯ ยังตกใจเลย เพราะเดิมคิดว่าชีวิตการทำงานจะจบแบบเรียบง่าย ในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เพราะก่อนหน้านั้นที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นความฝันสูงสุดในชีวิตของผม และก็คิดว่าจะจบลงเช่นนั้น แต่ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ในบ้านเมืองเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ที่ต้องทำให้ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต มาจบลงที่สำนักนายกรัฐมนตรีแห่งนี้”ม.ล.ปนัดดา ระบุ

รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า งานอีกด้านที่รัฐบาลต้องการส่งเสริม คือ เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีเตรียมที่จะเชิญชวนประชาชน ข้าราชการให้ร่วมกันเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติบำเพ็ญตน เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต ให้อยู่ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งขณะนี้ได้มีการบรรจุอยู่ใน 10 ยุทธศาสตร์แผนฉบับที่ 12 ของรัฐบาล โดยการทำงานจะมีการประสานกับทุกภาคส่วน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศชาติเกิดความยั่งยืน

ส่วนงานด้านอื่นที่นายกรัฐมนตรียังคงมอบหมาย ได้ลงพื้นที่พบกับประชาชนตามนโยบายประชารัฐ นอกจากภารกิจตรวจราชการแล้ว ยังได้ลงไปเยี่ยมตามสถานศึกษาทุกจังหวัดของประเทศ ซึ่งก็ได้พบปะพูดคุยกับครูอาจารย์ และลูกหลานในหลายจังหวัด จึงคิดว่าการปลูกฝังเยาวชนที่ดี ควรต้องเริ่มตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ให้ได้รับการดูแลอบรมที่ดี แต่ต้องทำในแบบเรียบง่าย

ดังนั้น การดูแลเยาวชนของชาติเป็นหน้าที่ของครูอาจารย์ที่ต้องช่วยกัน ในการสร้างอนาคตของลูกหลานไทยให้เป็นอนาคตของประเทศ ฉะนั้นบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เยาวชน ซึ่งส่วนตัวอยากกราบขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านที่มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ในการสร้างอนาคตลูกหลานของประเทศ และขอให้ทำหน้าที่นี้ต่อไป

“ล่าสุดตอนการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) เมื่อวันที่ 9-10 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นตัวแทนไปรับและส่งนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน ซึ่งท่านเล่าว่า ในหลวงทรงเป็นที่รักของ สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งภูฏาน รวมไปถึงสมเด็จพระราชินี และประชาชนชาวภูฏานทุกคน รวมทั้งยังชื่นชมแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ว่าเป็นสิ่งที่ล้ำเลิศจนเป็นที่ชื่นชม ศรัทธาของประชาคมโลก และเมื่อได้ยินได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกน้ำตาซึม ซึ่งก่อนที่นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏานจะขึ้นเครื่องเดินทางกลับได้พูดประโยคสุดท้ายว่า ขอถวายพระพร”ม.ล.ปนัดดา ระบุ

รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำหน้าที่ของข้าราชการทุกคนตั้งแต่ระดับกระทรวง จังหวัด ท้องถิ่น จะต้องยืนหยัดในหลักการ คือ ต้องเข้าใจผู้คน ส่วนผู้บังคับบัญชาต้องทำงานเพื่อประชาชน ให้เป็นไปตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพราะหลักการนี้จะเป็นความอยู่รอดของชาติ แม้แต่ชาวต่างชาติยังเลื่อมใสศรัทธา ดังนั้นคนไทยทุกฝ่ายต้องช่วยกันยืนหยัดในจุดนี้ให้เป็นที่น่าภูมิใจ เพราะถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมือไขว้เขวไม่ชัดเจน แล้วสังคมจะฝากความไว้วางใจกับใครได้ รวมถึงประชาชนต้องเชื่อมั่นในตัวข้าราชการ ไม่ควรมีการนำสีมาแบ่งแยกกัน เพราะความเป็นคนไทยเป็นสิ่งที่บรรพชนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ร่วมกันสั่งสมคุณงามความดีให้กับแผ่นดินไว้มาอย่างยาวนาน

ภาคภูมิใจรับใช้แผ่นดิน

“ม.ล.ปนัดดา” เป็นตัวอย่างข้าราชการที่ดีในการทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท เป็นตัวอย่างข้าราชการรุ่นใหม่ที่จะเข้ามารับราชการในกระทรวงมหาดไทย เพราะตลอดชีวิตการทำงานตั้งใจอยู่ในกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่เริ่มทำงานในตำแหน่งข้าราชการชั้นผู้น้อยจนวันนี้กลายเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ย้อนอดีตงานแรกที่ได้รับใช้แผ่นดิน คือ เป็นล่ามแปลภาษาอังกฤษให้กับรัฐมนตรีประจำกระทรวง จึงได้ทำงานใกล้ชิดกับนักการเมืองและผู้สื่อข่าว ที่จะต้องถ่ายทอดข่าวสารให้สาธารณะรับทราบ จากล่ามจนได้เป็นหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ทำงานผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายยุคหลายสมัย

ด้วยบุคลิกอ่อนน้อมถ่อมตนจึงได้รับความไว้วางใจ และเป็นที่ประทับใจจากข้าราชการและนักการเมือง

แม้ปัจจุบันจะได้รับแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง แต่ ม.ล.ปนัดดา มีความภาคภูมิใจตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมากที่สุด โดยเฉพาะครั้งดำรงตำแหน่งเป็น ผวจ.เชียงใหม่ กับนครปฐม เพราะการได้ทำงานคลุกฝุ่นคลุกดินกับประชาชน คือ หัวใจงานมหาดไทย