posttoday

กางปีก’นิวเจน แอร์เวย์ส’ 20 เส้นทางจีนบินตรงไทย

20 กรกฎาคม 2559

สายการบินนิวเจน แอร์เวย์ส อาจไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างสำหรับนักเดินทางชาวไทยและชาวต่างชาติมากนัก

โดย...พีรดา ปราศรีวงค์

สายการบินนิวเจน แอร์เวย์ส อาจไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างสำหรับนักเดินทางชาวไทยและชาวต่างชาติมากนัก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวประเทศจีนแล้ว โดยเฉพาะมณฑลรองต่างรู้จักสายการบินนี้เป็นอย่างดี จากจำนวนผู้โดยสารคนจีนที่เดินทางมาไทยด้วยสายการบินดังกล่าวมากกว่า 1 ล้านคน ในระยะเวลาเพียง 2 ปี ที่เริ่มสยายปีกบินเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2557 พร้อมฝูงบิน 6 ลำ ครอบคลุมเส้นทางการบิน 20 เส้นทาง

เจริญพงษ์ ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนิวเจน แอร์เวย์ส เล่าว่า การก่อตั้งสายการบินนิวเจน แอร์เวย์ส เกิดขึ้นจากโอกาสทางการตลาดที่บริษัททัวร์จีนประสบปัญหาการขาดแคลนที่นั่งเครื่องบิน ไม่สามารถจองแบบเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) นำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะฤดูกาลการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) เพราะปัจจุบันเมืองไทยเป็นเป้าหมายทางการท่องเที่ยวอันดับ 1 ที่คนจีนต้องการท่องเที่ยวมากที่สุด เมื่อเทียบกับ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย

การเปิดตัวของสายการบินนิวเจน จึงก่อตั้งขึ้นภายใต้ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ระหว่างบริษัททัวร์จีนถือหุ้นสัดส่วน 35% และนักธุรกิจไทยอีก 4 ราย อาทิ เจ้าของบริษัท ไทยประกันชีวิต สัดส่วน 65% โดยรูปแบบการบริหารจัดการและกลุ่มลูกค้าที่ความแตกต่างจากสายการบินทั่วไป มุ่งให้บริการเฉพาะกลุ่มที่ซื้อแพ็กเกจทัวร์กับบริษัททัวร์ที่สายการบินเป็นพันธมิตรด้วยเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมี 6-10 ราย ครอบคลุมมณฑลหลักที่ให้บริการเส้นทางการบิน ไม่เน้นการขายให้กับนักท่องเที่ยวทั่วไป

นอกจากนี้ กลยุทธ์การเปิดเส้นทางการบินของนิวเจน เน้นบินตรงแบบจุดต่อจุด ในเส้นทางมณฑลรองของประเทศจีนมุ่งสู่เส้นทางรองของประเทศไทย เพื่อกระจายตัวนักท่องเที่ยวสู่แหล่งท่องเที่ยวโดยตรง หลีกเลี่ยงการแข่งขันที่รุนแรงของสายการบินประจำ ซึ่งปัจจุบันได้ใช้ท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินนานาชาติ จ.กระบี่ ให้บริการใน 20 เส้นทางการบิน จำนวน 60 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เช่น ดอนเมือง-ฉางซา, ดอนเมือง-หนานหนิง, ดอนเมือง-กุ้ยหลิน, ดอนเมือง-กุ้ยหยาง, กระบี่-อู๋ซี, กระบี่-หนานจิง, กระบี่-อู๋ฮั่น เป็นต้น

ในอนาคตมีแผนเพิ่มความถี่เส้นทางการบินที่เปิดให้บริการปัจจุบัน รวมถึงเส้นทางการบินใหม่ที่มีแผนเตรียมเปิดให้บริการในช่วงปี 2559-2562 เช่น กระบี่-เทียนจิน, ดอนเมือง-จางเจี๋ยเจี้ย และกระบี่-โฮออท รองรับการขยายฝูงบิน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 8 ลำ แบ่งเป็นเครื่องบิน โบอิ้ง 737-400 จำนวน 4 ลำ ความจุ 168 ที่นั่ง และ 737-800 จำนวน 4 ลำ ความจุ 189 ที่นั่ง โดยปลายปีนี้ทยอยรับเพิ่มอีก
2 ลำ และปี 2560-2562 เฉลี่ยปีละ 4 ลำ เพื่อขยายการบินให้ครอบคลุมเมืองรองของประเทศจีนทั้งหมด

เจริญพงษ์ บอกอีกว่า สายการบินมีแผนขยายธุรกิจไปยังประเทศอินเดีย โดยมีโมเดลการทำธุรกิจเหมือนกับประเทศจีน ที่เน้นขยายเส้นทางการบินไปยังเมืองรอง รวมถึงประเทศเมียนมาได้ติดต่อ
และให้ความสนใจในโมเดลธุรกิจของสายการบิน ซึ่งมองว่าการขยายธุรกิจในลักษณะนี้จะเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะประเทศเปิดใหม่มีประชากรจำนวนมาก กลุ่มคนชั้นกลางต้องการเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนใหญ่ให้ความนิยมใช้บริการบริษัททัวร์ ขณะที่เมียนมาสามารถใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) การบิน โดยเดินทางต่อเครื่องบินไปยังประเทศที่สาม เพราะสายการบินที่บินตรงสู่เมียนมามีจำนวนน้อยและไม่หลากหลาย จึงเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ

สำหรับฐานปฏิบัติการบินที่สายการบินให้ความสนใจในอนาคต ได้แก่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ เชียงราย เพื่อกระจายฐานลูกค้าให้ครอบคลุม ส่วนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคนจีนยังไม่นิยมเดินทางท่องเที่ยวมากนัก เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกเรื่องโรงแรมที่พัก การคมนาคมประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาอีกมาก

“โอกาสและการเติบโตทางธุรกิจสายการบินในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตสูงมาก แต่เป็นการเติบโตในเส้นทางระหว่างประเทศ เพราะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว วัดได้จากการเติบโตทางการท่องเที่ยวไทยเฉลี่ย 10% โดยเฉพาะตลาดจีนนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1-2 ล้านคน” เจริญพงษ์ กล่าว

โดยสายการบินอยู่ระหว่างการพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต ซึ่งมีแนวโน้มการขายตั๋วให้กับนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่ยังเป็นแผนระยะยาว เพราะมองว่าการขยายธุรกิจการบินในประเทศไทย เป็นการเล่นสงครามราคาที่เน้นขายตั๋วถูกและขาดทุน ซึ่งมองว่าในระยะยาวสายการบินที่ให้บริการเส้นทางในประเทศไทยควรมี 2-3 สายการบินเท่านั้นที่ให้บริการและสามารถอยู่รอดได้

นิวเจน แอร์เวย์ส ตั้งเป้าขนผู้โดยสารปีนี้กว่า 1 ล้านคน โดยเดือน ม.ค.-มิ.ย. มีผู้โดยสารราว 4.7 แสนคน คาดในครึ่งปีหลังจะมีนักท่องเที่ยวกว่า 6 แสนคน สร้างรายได้ปีนี้ 5,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมารายได้ 2,700 ล้านบาท โดยแผนการขยายฝูงบินในครั้งนี้ ตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ยปีละ 30%