posttoday

‘รสสยาม’ เกิดในไทย โตในต่างประเทศ

21 มิถุนายน 2559

อีกหนึ่งธุรกิจครอบครัวที่ส่งต่อมายังรุ่นต่อรุ่นสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส ภายใต้แบรนด์ “รสสยาม” (Rozsiam)

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

อีกหนึ่งธุรกิจครอบครัวที่ส่งต่อมายังรุ่นต่อรุ่นสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส ภายใต้แบรนด์ “รสสยาม” (Rozsiam) ที่ปัจจุบัน ชนภัทท์ จันทรุเบกษา ในฐานะรุ่น 3 และกรรมการผู้จัดการ บริษัท รสสยาม กำลังเดินแผนขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ที่กำลังเป็นไดนามิกมาร์เก็ตในเวลานี้

ชนภัทท์ เกริ่นที่มาธุรกิจที่เริ่มมาในรุ่นคุณพ่อและคุณอา เป็นกิจการครอบครัวที่ดำเนินการมานานร่วม 12 ปี ด้วยมีเรื่องราวผ่านการสืบทอดสูตรการปรุงอาหารมาตั้งแต่สมัยคุณทวด ที่เคยเป็นพ่อครัวประจำในราชสำนักจีน ก่อนย้ายรกรากมาตั้งหลักฐานในเมืองไทย พร้อมเรียนทำอาหารไทยเมนูต่างๆ และถ่ายทอดต่อไปยังรุ่นคุณย่าที่ได้สูตรเด็ดการทำอาหารไทยสารพัดแกงต่างๆ โดยเฉพาะแกงกะทิ ก่อนจะพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป และซอสต่างๆ โดยเฉพาะผัดไทยกึ่งสำเร็จรูปอีกเมนูขึ้นชื่อภายใต้แบรนด์รสสยามในปัจจุบัน

ขณะที่ตัวแบรนด์รสสยามได้เข้ามาอยู่ในตลาดตั้งแต่ 3 ปีก่อน ปัจจุบันแบ่งสินค้าออกเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ 1.แกงสำเร็จรูปเมนูต่างๆ จุดเด่น คือ มีเนื้อสัตว์ อย่างเนื้อไก่พร้อมฉีกซองใส่รับประทานได้เลย เรียกว่าได้ทั้งเนื้อและน้ำแกงจริงๆ 2.กลุ่มเครื่องแกงสำเร็จรูป ที่นำวัตถุดิบต่างๆ มาปรุงเป็นเมนูแกงไทยหลากหลายชนิด 3.กลุ่มซอสปรุงรสและล่าสุด 4.ผัดไทยกึ่งสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ที่อย่างหลังเป็นรายการสินค้าที่พัฒนาขึ้นมาในรุ่นของชนภัทท์เอง

ด้วยมองเห็นโอกาสว่า แม้จะเป็นเมนูอาหารทั่วๆ ไปที่คุ้นเคยในตลาดกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่หากนำนวัตกรรมมาใส่ในผลิตภัณฑ์เดิม ก็สามารถสร้างความต่างให้มีมูลค่าเพิ่มได้ ที่สำคัญคือสามารถขยายตลาดไปได้ไกลอีก โดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศ ที่ชาวต่างชาติรู้จักเมนูผัดไทย ซึ่งเป็นอาหารไทยดีอยู่แล้ว ซึ่งการพัฒนาสินค้าขึ้นมาใหม่เพื่อให้ผู้บริโภคมีความสะดวกในการเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การทำตลาดสินค้าแบรนด์รสสยามนั้นยังมีสัดส่วนหลัก 90% เป็นตลาดในประเทศ และอีก 10% จะเป็นตลาดต่างประเทศ โดยในปี 2559 นี้บริษัทวางแผนทำตลาดต่างประเทศในเชิงรุกมากขึ้นโดยเฉพาะในจีน ที่มีกลุ่มเป้าหมายทั้งนักท่องเที่ยวที่เคยลองรับประทานอาหารไทยมาแล้วติดใจในรสชาติ รวมทั้งขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ในจีนที่ไม่เคยรับประทานมาก่อนไปด้วยพร้อมกัน ซึ่งยังรวมถึงนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ทั้งฮ่องกง เกาหลี รัสเซีย ที่มองว่ายังเป็นโอกาสทางการทำตลาดเช่นกันสำหรับผลิตภัณฑ์แกงสำเร็จบรรจุซอง

“ปัจจุบันแม้ว่าจะมีผู้เล่นในตลาดน้ำแกงพร้อมปรุง หรือพร้อมรับประทานสำเร็จรูปแบบซองอยู่หลายราย รวมถึงมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาด แต่มองว่าแต่ละแบรนด์ก็จะมีตลาดของตัวเองมากกว่า โดยเฉพาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติในปัจจุบัน ที่ยังมีโอกาสเติบโตสูงด้วยพฤติกรรมกลุ่มทัวริสต์จะไม่เลือกแบรนด์”  ชนภัทท์ เสริม

ขณะที่กลยุทธ์หลักในการขยายตลาดจะยังเป็นการออกบูธแสดงสินค้า เพื่อหาคู่ค้าในรูปลักษณะตัวแทนการกระจายสินค้าและทำตลาดหรือดิสทริบิวเตอร์ โดยเฉพาะในเมืองฮาร์บิน ซึ่งเป็นเมืองที่หนาวที่สุดของจีนและมองว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสของรสสยาม ซึ่งบริษัทมีศักยภาพเพียงพอที่จะขยายตลาดดังกล่าว

จากแนวทางธุรกิจดังกล่าว บริษัทยังได้นำโมเดลธุรกิจมาปรับใช้กับการทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ สปป.ลาว ในรูปแบบการทำตลาดผ่านดิสทริบิวเตอร์เช่นกัน ด้วยเห็นว่าคนท้องถิ่นนั้นๆ จะมีความชำนาญในตลาดพื้นที่ได้ดีกว่า พร้อมวางแผนเชิงรุกทำตลาดครอบคลุมกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีทีได้ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ โดยแต่ละประเทศจะต้องมีดิสทริบิวเตอร์ 1 รายได้ครบทุกประเทศ จากปัจจุบันมีแล้ว 1 รายใน สปป.ลาว และอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรที่สนใจในประเทศกัมพูชา

นอกจากนี้ ยังวางแผนขยายตลาดในกลุ่มประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงสิงคโปร์ด้วย จากปัจจุบันสินค้าต่างๆ ภายใต้แบรนด์รสสยามดำเนินการผลิตภายใต้มาตรฐานฮาลาล (HALAL)  ซึ่งในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายราว 20 ล้านบาท พร้อมมองว่าตลาดเครื่องแกงไทยสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ซอสเครื่องปรุงรสต่างๆ รวมถึงเมนูผัดไทยภายใต้แบรนด์รสสยาม จะเป็นอีกหนึ่งสินค้าไทยที่มีโอกาสเติบโตสูงในตลาดอาหารโลก จากหลายส่วนประกอบกัน ทั้งตัวแบรนด์ที่มีจุดเด่น รสชาติ คุณภาพสินค้าที่รสสยามมุ่งให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ เพราะนั่นหมายถึงสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำ หากติดใจในรสชาติอาหารไทยแล้ว

จากการแจ้งเกิดแบรนด์ผลิตภัณฑ์ในไทย ที่ออกไปเติบโตไกลในต่างแดน