มาซูม่า เจาะเพื่อนบ้าน

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

จากความนิยมสินค้าภายใต้การผลิตและแบรนด์ไทยในตลาดเพื่อนบ้าน ซึ่งรวมถึงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือนภายใต้แบรนด์ “มาซูมา” เครื่องทำน้ำอุ่นสัญชาติไทย นอกจากจะติดอันดับท็อปทรีของตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นในไทยแล้ว ยังดังไกลไปถึงตลาดเพื่อนบ้านอาเซียนด้วย

สืบตระกูล บินเทพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทถือเป็นรายแรกที่ทำธุรกิจเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องกรองน้ำสัญชาติไทย เพื่อทดแทนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศตั้งแต่ 23 ปีก่อน โดยเห็นว่าสินค้าในตลาดกลุ่มนี้ขยายตัวเติบโตขึ้นทุกปี เฉลี่ย 10-20% ต่อปี ตามการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัว

สำหรับแผนในปีนี้ มาซูม่าจะรุกตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อนบ้านมากขึ้น จากปัจจุบันตลาดส่งออกอยู่ที่ สปป.ลาว และกัมพูชา โดยเฉพาะใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นตลาดหลักของมาซูม่าในขณะนี้ มียอดขายเริ่มต้นอยู่ที่ 1-2 ล้านบาท/ปี และในปีนี้ยอดขายใน สปป.ลาว จะเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว เช่นเดียวกับตลาดกัมพูชาที่แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจังในปีนี้

เหตุผลที่มาซูม่ามั่นใจว่า ตลาดส่งออกใน สปป.ลาว และกัมพูชา จะเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว คือ ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น ถือเป็นเรื่องใหม่ของประเทศเพื่อนบ้าน และเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มนี้ก็ยังมีการขยายตัวสูงตามการลงทุนจากทั่วโลกที่ไหลเข้าไปลงทุน อีกทั้งสินค้าแบรนด์ไทยยังเป็นที่นิยมและยอมรับในคุณภาพจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว แม้ว่าช่วงหลังจะมีสินค้าจากจีนเข้ามาแข่งขันบ้าง

ขณะเดียวกัน ยังวางเป้าขยายตลาดส่งออกให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเท่าตัวในประเทศที่เข้าไปทำตลาดก่อนหน้านี้ รวมถึงเร่งหาดีลเลอร์ เพื่อส่งสินค้าเข้าไปทำตลาดในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และศรีลังกา พร้อมตั้งเป้าขยายตลาดส่งออกสินค้าให้ครบทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในเวียดนามและเมียนมา

ในเบื้องต้น มาซูม่าได้ตั้งศูนย์บริการหลังการขายที่แม่สอด จ.ตาก เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดเมียนมา โดยกำลังหาดีลเลอร์ที่จะทำตลาดให้ในย่างกุ้งและมัณฑะเลย์อยู่ คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2560 เช่นเดียวกับที่เวียดนามได้มีการไปสำรวจลู่ทางการลงทุนมาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดตั้งทีมงานอยู่

“จะขยายกำลังการผลิตให้อยู่ที่ 2 แสนเครื่อง/ปี จากอยู่ที่ 1.5 แสนเครื่อง/ปี รวมทั้งมีแผนขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน โดยจะนำมาประยุกต์ใช้ในระบบกรองน้ำในโครงการของภาครัฐและโครงการอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด” สืบตระกูล กล่าว

เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ภายในปี 2561 มาซูม่าจะมีรายได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท รวมถึงการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ด้วย