หนุนยุทธศาสตร์การค้าสปป.ลาว

พาณิชย์มั่นใจเสถียรภาพเศรษฐกิจลาวเร่งยุทธศาสตร์การค้าร่วม พร้อมหนุนท็อปไทยแบรนด์เจาะตลาด

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของ สปป.ลาวในปีนี้ คาดว่าจะยังขยายตัวในอัตรา 7% ซึ่งยังสูงอยู่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ โดยไทยและ สปป.ลาวยังถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นจึงเร่งจัดทำยุทธศาสตร์และแสวงหาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกันในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในอนุภูมิภาคนี้

“สปป.ลาวมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมาก เพราะสามารถรักษาอัตราเงินเฟ้อไว้ได้ในระดับที่ต่ำ อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีความผันผวน ซึ่ง สปป.ลาวได้แสดงความประสงค์ให้ไทยเข้าไปลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการทำการเกษตรอินทรีย์ที่รัฐบาล สปป.ลาวให้ความสำคัญกับการเพาะปลูกโดยปราศจากสารพิษ” นางมาลี กล่าว

นอกจากนี้ สปป.ลาวมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ เพื่อดึงดูดการลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะท่าแขกเป็นหนึ่งใน 11 เขตเศรษฐกิจที่ สปป.ลาว ได้อนุญาตให้นักลงทุนเข้าไปลงทุน มีสถานที่ตั้งอยู่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 3 เพื่อสร้างให้เป็นเขตเมืองใหม่ที่มีความทันสมัย สามารถดึงดูดนักลงทุนได้จำนวน 18 บริษัท เป็นการลงทุนของนักลงทุนภายในประเทศ 12 บริษัท นักลงทุนภายในร่วมลงทุนกับต่างประเทศ 2 บริษัท และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 4 บริษัท มีมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 35.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการลงทุนในสาขาอุตสาหกรรม 28% สาขาการบริการ 39% และสาขาการค้า 43%

นางมาลี กล่าวว่า ล่าสุด กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดงานสุดยอดแบรนด์ไทย (ท็อปไทยแบรนด์ 2016) ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับ สปป.ลาว โดยมีผู้ประกอบการทั้งไทยและ สปป.ลาวเข้าร่วมงานรวม 212 บริษัท มีผู้เข้าร่วมชมงาน 5.64 หมื่นคน โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความสนใจ คือ อาหารและเครื่องดื่ม ซอสปรุงรส ผลไม้สด เครื่องสำอาง ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์กีฬา แฟชั่น (เสื้อผ้า รองเท้า กระะเป๋า) คาดว่าจะมีมูลค่าสั่งซื้อรวมกว่า 125 ล้านบาท

สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับ สปป.ลาวในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค. 2559) มีมูลค่ารวม 2,379 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 2.38% แบ่งเป็นการส่งออก 1,705 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 3% และนำเข้า 674 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 19% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์สินค้าปศุสัตว์ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ข้าว และอัญมณีและเครื่องประดับ ส่วนสินค้าที่ไทยนำเข้าจาก สปป.ลาว ได้แก่ เชื้อเพลิงอื่นๆ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผัก ผลไม้ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน