posttoday

จีนล้อมตลาดCLMV

01 กรกฎาคม 2559

ผู้ส่งออกยังไม่วางใจตลาดซีแอลเอ็มวีชี้เดือน มิ.ย. ส่งสัญญาณฟื้นบวก 1% หวั่นสินค้าจีนรุกตลาดอาเซียนแข่งไทยหนักขึ้น

ผู้ส่งออกยังไม่วางใจตลาดซีแอลเอ็มวีชี้เดือน มิ.ย. ส่งสัญญาณฟื้นบวก 1% หวั่นสินค้าจีนรุกตลาดอาเซียนแข่งไทยหนักขึ้น

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ตลาดส่งออกของไทยในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ในเดือน มิ.ย.นี้ มีสัญญาณปรับตัวเป็นบวก 1% พลิกจากเดือน พ.ค.ที่ติดลบถึง 4.9% มาจากปัจจัยมูลค่าการส่งออกทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับขึ้นเช่นกัน

สำหรับการส่งออกของไทยไปตลาดซีแอลเอ็มวีใน 5 เดือนแรกปีนี้ติดลบ 3.1% และเมื่อแยกรายประเทศพบว่ากัมพูชาติดลบ 15.9% สปป.ลาว ติดลบ 3% เมียนมาติดลบ 0.4% และเวียดนามบวก 3.3% โดยคาดว่าในเดือน มิ.ย.นี้การส่งออกไปกัมพูชาจะเป็นบวก 4.3% จากการส่งออกทองคำจำนวนมาก สปป.ลาว ติดลบ 10.7% เมียนมาบวก 2.8% และเวียดนามบวก 5.1% ส่งผลให้ภาพรวมตลาดซีแอลเอ็มอีเดือน มิ.ย.กลับมาบวก 1%

ขณะเดียวกัน ยังมีความเป็นห่วงต่อสินค้าจากจีนที่จะเข้ามารุกตลาดในอาเซียนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยแข่งขันกับสินค้าจีนลำบากขึ้น เนื่องจากในช่วงนี้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง 10% ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหา Brexit ซึ่งทำให้ต้นทุนราคาสินค้าจากจีนถูกกว่าสินค้าไทยมากขึ้น

“ในตอนนี้จีนล้อมประเทศไทยไว้หมดแล้ว เพราะเข้าไปทั้งตลาด ลาว กัมพูชา และเมียนมา และการมาของจีนก็น่ากลัวเพราะมาแบบครบวงจร โดยปัจจุบันจีนส่งออกสินค้าในตลาดอาเซียนมากถึง 25% และตั้งเป้าที่จะโตเป็นเท่าตัวภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ถ้าตั้งรับไม่ดีก็น่าห่วงมาก” นายนพพร กล่าว

นอกจากนี้ การที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เชิญชวนให้นักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นนั้น ถ้านักลงทุนจีนเข้ามาแล้วดูแลไม่ดีก็น่าเป็นห่วงผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะรายเล็กๆ เพราะนอกจากจะสู้เรื่องเงินทุนไม่ได้แล้ว ยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนเหมือนที่นักลงทุนจีนได้รับ แต่เชื่อว่านักลงทุนที่รัฐบาลต้องการดึงเข้ามาลงทุนในไทยน่าจะเป็นกลุ่มสินค้าระดับบนเพื่อไม่ให้แข่งขันกับสินค้าไทย

ขณะที่ยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหม(1 Belt 1 Road) ของจีน น่าจะเป็นความเสี่ยงของผู้ประกอบการไทยด้วย เพราะจีนมีแผนเข้ามาทั้งการลงทุนและการค้า ซึ่งหากเข้ามามากจนไทยไม่สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมตัวเองได้ ผู้ประกอบการไทยก็จะมีปัญหา และนักลงทุนจีนก็มีช่องทางเอาเงินกลับประเทศตัวเองที่หลากหลาย เช่น การใช้จ่ายผ่าน WeChat pay ที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยแต่กลับไปจ่ายเงินที่จีน หรือแม้แต่การทำทัวร์ศูนย์เหรียญ