เชื่อมรถไฟอรัญฯ-ปอยเปต เส้นทางค้าระเบียงตะวันออก

โดย...สวาท เกตุงาม

ทางรถไฟเชื่อมต่อกรุงเทพฯ-พนมเปญ จากชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เข้าสู่ปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ซึ่งเริ่มต้นจากการหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย และนายกรัฐมนตรี ฮุนเซน แห่งกัมพูชา เมื่อเดือน ต.ค. 2557 จนถึงขณะนี้กล่าวได้ว่าแล้วเสร็จเกือบ 100%

หากเสร็จสมบูรณ์ เส้นทางรถไฟสายนี้ก็จะเป็นแนวเส้นทางรถไฟที่สำคัญ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแนวเส้นทางรถไฟระเบียงตะวันออกที่ประเทศญี่ปุ่นสนใจลงทุน โดยเริ่มจากท่าเรือน้ำลึกทวายในประเทศเมียนมา ผ่านกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา อรัญประเทศ และฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง

เส้นทางรถไฟสายนี้ ด้านตะวันตก จากท่าเรือทวายจะเชื่อมต่อประเทศอินเดีย ส่วนฝั่งตะวันออก เชื่อมต่อแนวเส้นทางรถไฟสายสิงคโปร์-คุนหมิง จากสิงคโปร์-มาเลเซีย-ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม-จีน เป็นเส้นทางหลักและมีเส้นทางเชื่อมประเทศไทย-เมียนมา ไทย-ลาว เป็นเส้นทางย่อย

รัฐบาลกัมพูชานั้นเริ่มปรับปรุงเส้นทางรถไฟในประเทศมาตั้งแต่ปี 2549 โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ส่วนจุดเชื่อมโยงกับเส้นทางรถไฟของไทยที่อรัญประเทศนั้น เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 และคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ส.ค.ปีนี้

ประมวล เขียวขำ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ในฐานะผู้ประกอบการส่งออกสินค้าสู่กลุ่มประเทศอาเซียน กล่าวว่า สำหรับเส้นทางรถไฟจากอรัญประเทศถึงคลองลึก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำการก่อสร้างและซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว ยังเหลือแต่ฝ่ายกัมพูชาที่จะสร้างเชื่อมต่อกันที่บริเวณเส้นทางเดิม และขณะนี้ได้สร้างเข้ามาถึงเส้นเขตแดนแล้ว ยังเหลือเฉพาะส่วนที่เป็นสะพานข้ามแดน

ประมวล บอกว่า สะพานรถไฟข้ามคลองที่เป็นเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ฝ่ายกัมพูชาจะให้ฝ่ายไทยเป็นผู้สร้าง คาดว่าทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับฝั่งไทยจะเสร็จในเร็วๆ นี้ ส่วนการสร้างสะพานคลองลึกที่เป็นทางรถไฟ คาดว่าจะสร้างเสร็จเร็วๆ นี้เช่นกัน

“การเดินรถไฟสายอรัญประเทศ-กรุงเทพฯ ประชาชนยังนิยมใช้กันมาก ทั้งคนไทยและกัมพูชา ที่เดินทางเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ และในจังหวัดที่เส้นทางรถไฟผ่าน เนื่องจากขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย สายภาคตะวันออก ยังให้บริการฟรีตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะชาวกัมพูชาจะนิยมขึ้นรถมากกว่าการใช้รถยนต์ เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงกว่า และในอนาคตการขนส่งสินค้าทางรถไฟจะประหยัดค่าใช้จ่ายมาก และเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอีกด้วย และที่สำคัญอีกประการ คือ จ.สระแก้ว เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ดังนั้นการขนส่งสินค้าทางรถไฟจึงมีความจำเป็นมาก โดยสามารถเชื่อมต่อจากอรัญประเทศถึงกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาอีกด้วย”