ธุรกิจญี่ปุ่นเชื่อมั่นลงทุนไทย
หอการค้าญี่ปุ่น เผยบริษัทญี่ปุ่น เข้ามาจัดตั้งในไทยปี 58-59 เพิ่มขึ้น 92 บริษัท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
หอการค้าญี่ปุ่น เผยบริษัทญี่ปุ่น เข้ามาจัดตั้งในไทยปี 58-59 เพิ่มขึ้น 92 บริษัท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายชินโกะ ซาโตะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) เปิดเผยในสัมมนาส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “นโยบายการส่งเสริมลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ในประเทศไทย” จัดโดย องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) ร่วมกับ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และ JCC ว่า จำนวนบริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาจดทะเบียนเป็นสมาชิกของหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ในช่วงเดือน เม.ย.2558 - มี.ค.2559 เพิ่มขึ้น 92 บริษัท หรือมีจำนวนรวมเป็น 1,707 บริษัท ถือว่ามีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ทั้งนี้จำนวนบริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในไทยเพิ่มขึ้น มีหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งภาคการผลิต การบริการ สินค้าอุปโภคบริโภค บริษัทที่ปรึกษาต่างๆ และบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมาย เป็นต้น ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีอยู่ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวก็ตาม เป็นผลมาจากนักธุรกิจญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นกับประเทศไทย ทั้งการให้สิทธิประโยชน์ของบีโอไอ ประเทศไทยมีระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ดีและเป็นฐานผลิตสำคัญของบริษัทญี่ปุ่น ที่เชื่อมโยงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน (เออีซี)
นายซาโตะ กล่าวต่อว่า นโยบายการส่งเสริม 10 คลัสเตอร์ของรัฐบาลไทย ผลตอบรับของนักลงทุนญี่ปุ่นค่อนข้างดี และนโยบายที่ดึงดูดการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของญี่ปุ่น และมีแนวโน้มเพิ่มการลงทุนต่อไป รวมถึงการพิจารณาลงทุนเรื่องทรัพยากรบุคคล ที่จะต้องมีการพิจารณาในเรื่องนี้เช่นกัน ขณะที่ สภาพัฒน์ ประกาศอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกของไทยขยายตัว 3.2% ถือว่ามีตัวเลขอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก
นายมาซายาสุ โฮซูมิ ประธาน เจโทร กล่าวว่า นโยบายการลงทุนของรัฐบาลเรื่อง 10 คลัสเตอร์ ที่ให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นแก่นักลงทุน จึงเป็นนโยบายที่มีความน่าสนใจต่อบริษัทญี่ปุ่นอย่างมาก โดยที่ผ่านมา บริษัทญี่ปุ่นจะมีการพิจารณาใช้เวลาตัดสินใจ 6-12 เดือนก่อนลงทุน แต่ขณะนี้พบว่ามีบริษัทญี่ปุ่นหลายราย ตัดสินใจลงทุนไปแล้ว ส่วนที่นโยบายบางส่วนของบีโอไอ ที่ส่งเสริมการลงทุนจะสิ้นสุดในปลายปีนี้ เรื่องดังกล่าว คงต้องมีการหารือร่วมกันต่อไป
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และนโยบายการลงทุน บีโอไอ กล่าวว่า ผลจากการประกาศนโยบายการลงทุนของบีโอไอใหม่ ตั้งแต่ปี 2558 ทำให้ล่าสุดมี บริษัทที่ขอส่งเสริมการลงทุนตามนโยบายใหม่แล้ว 11 โครงการ คิดเป็นวงเงินรวม 1.7 หมื่นล้านบาท และจำนวนดังกล่าว เป็นบริษัทญี่ปุ่นจำนวน 3 โครงการ ที่เกี่ยวข้องกับ ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเซ็นเซอร์วัดแรงบิด


