posttoday

ตั้งสนง.เขตเศรษฐกิจ

08 มีนาคม 2559

บอร์ด กบพ.ไฟเขียวตั้งสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตั้งคณะทำงานออกแบบสิทธิประโยชน์เฉพาะซูเปอร์คลัสเตอร์

บอร์ด กบพ.ไฟเขียวตั้งสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตั้งคณะทำงานออกแบบสิทธิประโยชน์เฉพาะซูเปอร์คลัสเตอร์

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) การพัฒนาพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กบพ.) ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าการประชุมนี้ถือเป็นนัดแรกนับแต่มีการเปลี่ยนจากคณะกรรมการขับเคลื่อนการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษมาเป็น กบพ. หลังจากมีความพร้อมทั้งเรื่องกฎหมาย ระเบียบ และสิทธิประโยชน์ในการบริหารที่เป็นระบบมากขึ้น

สำหรับการประชุมครั้งนี้ ยังได้อนุมัติให้มีการตั้งสำนักงานนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้เป็นหน่วยงานที่จะอยู่ใต้พระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการออกกฎหมาย โดยมอบให้ นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ทำหน้าที่หัวหน้าบริหาร โดย กนอ.จะมีบทบาทสูงมากในการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษ

“สำนักงานนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะเป็นศูนย์กลางที่จะประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ โดยให้นโยบายว่าขอให้มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่บริหารเป็นระบบราชการ เพราะหลังจากนี้จะมีเงินลงทุนเข้ามาอีกมากเป็นล้านๆ บาท จะทำงานช้าไม่ได้ และหากต้องการบุคลากรเพิ่มก็ทำเรื่อง เข้ามา ขอ” นายสมคิด กล่าว

ขณะเดียวกัน ยังตั้งคณะทำงานเพื่อออกแบบสิทธิพิเศษที่ให้กับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในซูเปอร์คลัสเตอร์ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับแหลมฉบัง มาบตาพุดซึ่งคณะทำงานชุดนี้ประกอบด้วย นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการบริหาร บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย เป็นประธาน นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์  ประธานกรรมการ บริษัท ไออาร์พีซี นายคนิศ แสงสุพรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท การบินไทย และนายวรพล โสคติยานุรักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมเป็นกรรมการ โดยมีส่วนราชการ เช่น บีโอไอ เข้าร่วมด้วย 

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ กนอ.เตรียมความพร้อมของพื้นที่ลงทุนของอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจังหวัดที่เป็นซูเปอร์คลัสเตอร์ทั้ง 3 ที่ปัจจุบันมีความพร้อมในเรื่องสาธารณูปโภค ทั้งท่าเรือ สนามบิน และอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่เป็นวัตถุดิบรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อยู่แล้ว แต่ต้องมีที่ให้กับนักลงทุน ซึ่งขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า มีที่ดินของราชการที่มีความพร้อมนำมาใช้ได้อยู่แล้วประมาณ 1,000 ไร่